พังงา - ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดพังงา ร่วมประกอบพิธีละหมาดวันตรุษอีฎิ้ลฟิตรี ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 กันอย่างคึกคัก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (28 ก.ค.) ที่มัสยิดกลางจังหวัดพังงา อ.เมืองพังงา นายหมาด ยมโดย อิหม่ามมัสยิดกลางจังหวัดพังงา นำพี่น้องชาวไทยมุสลิมจำนวนมาก ร่วมกันประกอบพิธีละหมาด เนื่องในวันตรุษอีฎิ้ลฟิตรี ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1435 ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางศาสนาอีกวันหนึ่งของพี่น้องมุสลิมที่ได้ยึดถือปฏิบัติกันเป็นประจำทุกปี โดยได้มีการบรรยายธรรมให้แก่ผู้มาร่วมพิธีละหมาด มีการบริจาคซากาต หรือบริจาคทานให้แก่เด็ก คนชรา และผู้ยากไร้
นายหมาด ยมโดย กล่าวว่า เมื่อเสร็จสิ้นการถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองกันในวันที่ 1 ของเดือนเชาวาล เรียกว่า “วันตรุษอีฎิ้ลฟิตรี” หรือ “วันออกบวช” หรือ “วันอีดเล็ก” ส่วนในจังหวัดภาคใต้ของไทย นิยมเรียกว่า “วันฮารีรายอ” เทียบเท่า “วันออกพรรษา” ของชาวไทยพุทธ นั่นเอง ซึ่งเป็นวันที่กลับมาสู่การเว้นจากการถือศีลอด นั่นคือ การกลับมาสู่สภาพเดิม มุสลิมทุกคนจะฉลองกันอย่างสนุกสนานหลังจากที่ถือศีลอดมานาน 1 เดือนเต็ม พิธีการทางศาสนาที่สำคัญในวันตรุษอีฎิ้ลฟิตรี คือ การละหมาดวันอีด ซึ่งเป็นการละหมาดในช่วงเช้า เพื่อขอพรให้พระองค์อัลลอฮฺ ประทานความจำเริญแก่ชีวิต พร้อมทั้งขออภัยโทษในความผิดบาปต่างๆ นานาด้วย
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมส่วนใหญ่มักจะนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเองเพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับครอบครัว และญาติพี่น้อง เพื่อขอขมาลาโทษซึ่งกันและกัน และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ หรือที่สะอาดสวยงาม ถือเป็นวันรวมญาติครั้งยิ่งใหญ่ของพี่น้องมุสลิม โดยหลังจากละหมาดในช่วงเช้าแล้ว จะมีการเลี้ยงอาหารเพื่อสังสรรค์กันในครอบครัว หรือเลี้ยงอาหารแก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งมอบของขวัญ ของกำนัลแก่กันด้วย ทั้งในรูปของขนม สิ่งของต่างๆ และเงิน เช่นเดียวกับอั่งเปาของชาวจีน นอกจากนี้ ก็ยังนิยมเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือไปเยี่ยมญาติตามต่างจังหวัด เพื่อแสดงความรักความห่วงใยที่มีต่อกัน และกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นเฟ้นยิ่งขึ้น