นราธิวาส - ผอ.การท่องเที่ยวนราฯ เผย เทศกาล “ฮารีรายอ” ในพื้นที่ จชต. ซบเซา คาดนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา
วันนี้ (26 ก.ค.) นายอาหมาน หมัดอาดัม ผู้อำนวยการการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าวว่า บรรยากาศช่วงเทศกาล “ฮารีรายอ” ปีนี้มีแนวโน้มว่าการท่องเที่ยวจะซบเซากว่าปีที่ผ่านมากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และเขตอำเภอเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.เบตง จ.ยะลา ที่มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค.57 จากกระแสความนิยมบริโภคทุเรียนใน อ.เบตง ซึ่งที่ผ่าน อ.เบตงจะคึกคักมาก
แต่หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์วานนี้ เชื่อว่า นักท่องเที่ยวจะลดลงในช่วงเทศกาลฮารีรายอ ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวภาพรวมซบเซา มีสาเหตุหลักมาจากราคายางพาราตกต่ำ ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบปัญหาจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ส่วนหนึ่งจึงหันไปท่องเที่ยวอยู่ภายในประเทศเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า แทนการเดินทางออกมาท่องเที่ยวต่างประเทศ
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีเงินสะพัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 40 ล้านบาท แยกเป็น อ.เบตง จ.ยะลา จำนวน 15 ล้านบาท อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 10 ล้านบาท และเขตอำเภอเมืองของทั้ง 3 จังหวัด เฉลี่ยพื้นที่ละประมาณ 5 ล้านบาท
วันนี้ (26 ก.ค.) นายอาหมาน หมัดอาดัม ผู้อำนวยการการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส กล่าวว่า บรรยากาศช่วงเทศกาล “ฮารีรายอ” ปีนี้มีแนวโน้มว่าการท่องเที่ยวจะซบเซากว่าปีที่ผ่านมากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และเขตอำเภอเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.เบตง จ.ยะลา ที่มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค.57 จากกระแสความนิยมบริโภคทุเรียนใน อ.เบตง ซึ่งที่ผ่าน อ.เบตงจะคึกคักมาก
แต่หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์วานนี้ เชื่อว่า นักท่องเที่ยวจะลดลงในช่วงเทศกาลฮารีรายอ ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวภาพรวมซบเซา มีสาเหตุหลักมาจากราคายางพาราตกต่ำ ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบปัญหาจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ส่วนหนึ่งจึงหันไปท่องเที่ยวอยู่ภายในประเทศเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า แทนการเดินทางออกมาท่องเที่ยวต่างประเทศ
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีเงินสะพัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 40 ล้านบาท แยกเป็น อ.เบตง จ.ยะลา จำนวน 15 ล้านบาท อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 10 ล้านบาท และเขตอำเภอเมืองของทั้ง 3 จังหวัด เฉลี่ยพื้นที่ละประมาณ 5 ล้านบาท