ชุมพร - คู่อริเจอกันในคาร์แคร์เรือนจำชุมพร เปิดศึกดวลปืนสนั่นหวิดดับสยอง ผู้คุม นักโทษชั้นดีรวบตัวได้ควันทั้งคู่ พร้อมยึดปืน 2 กระบอก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (23 ก.ค.) ร.ต.ท.นรินทร์ รอดชู ร้อยเวร สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณคาร์แคร์ของเรือนจำชุมพร จึงรายงาน พล.ต.ต.สุทธินาท สุดยอด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุอยู่ในสถานที่บริการล้างรถ หรือคาร์แคร์ของเรือนจำจังหวัดชุมพร ซึ่งสร้างเป็นโรงเรือนแบบเปิด ที่กลางลานซึ่งเป็นจุดทำความสะอาดรถหลังอัดฉีดน้ำแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชายฉกรรจ์ 2 คน ถูกเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ และผู้ต้องขังชั้นดีช่วยจับตัวแยกออกอยู่ห่างกันคนละด้าน ทราบชื่อคือ นายชุมพล นพชำนาญ อายุ 39 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.3 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร สภาพหน้าตาปูดบวม มีเลือดไหลซึมที่โหนกแก้ม ส่วนอีกคนทราบชื่อคือ นายกฤษฎา ยังสวัสดิ์ สวมเสื้อยืดสีเขียว นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186/1 ม.4ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ที่บริเวณศีรษะเป็นแผลแตกมีเลือดไหล คล้ายโดนของแข็ง
นอกจากนั้น บริเวณพื้นปูนเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนลูกซองสั้น จำนวน 2 กระบอก แบบไทยประดิษฐ์ โดย 1 กระบอกมีกระสุน 1 นัด ยังไม่ได้ยิงบรรจุอยู่ในรังเพลิง และอีก 1 กระบอก มีปลอกกระสุนผ่านการยิงมาแล้ว มีปลอกกระสุนคาอยู่ในรังเพลิง 1 นัด นอกจากนี้ ยังมีเครื่องกระสุนขนาดเบอร์ 12 ยังไม่ได้ยิงตั้งอยู่อีก 1 นัด
จากการสอบถามผู้ต้องขังที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า นายชุมพล ได้มาเยี่ยมญาติในเรือนจำ เมื่อเยี่ยมเสร็จแล้วได้เดินทางนั่งคุยกับเพื่อนที่จุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้น นายกฤษฎา ได้เดินมากับเพื่อน และมาหยุดตรงหน้านายชุมพล ก่อนต่อว่าต่อขานพร้อมนำอาวุธปืนสั้นออกมาขู่ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ชกต่อยกันชุลมุนก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด ทำให้บรรดาไทยมุงวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง เจ้าหน้าที่ของเรือนจำ และนักโทษชั้นดีที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยจับกุมตัวทั้ง 2 คนไว้ได้ในที่เกิดเหตุ
ด้าน ร.ต.ท.นรินทร์ รอดชู ร้อยเวร สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า ทั้งคู่เป็นอริกัน เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว คาดว่านายกฤษฎา ซึ่งเพิ่งพ้นโทษได้ประมาณ 1 ปี ได้มาเจอนายชุมพล ที่มาเยี่ยมญาติอยู่เป็นประจำเกือบทุกวันโดยบังเอิญ คงเกิดอารมณ์โกรธแค้นกัน จึงได้เข้ามาต่อว่าจนทะเลาะวิวาทกันขึ้นบริเวณคาร์แคร์ของเรือนจำ ซึ่งต่างคนก็มีอาวุธปืนกันทั้งคู่ แต่ยังไม่รู้ว่าฝ่ายใดชักอาวุธปืนขึ้นมายิงก่อนแต่กระสุนไม่ถูกใคร
เมื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำ กับนักโทษเห็นจึงถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก มาพิสูจน์ลายมือแฝงว่ากระบอกไหนเป็นของใคร และใครเป็นคนยิง เนื่องจากทั้งคู่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ยิง และไม่ใช่ปืนของทั้ง 2 คน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทั้งคู่ทะเลาะวิวาท และมีอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ส่วนข้อหาพยายามฆ่าต้องรอพิสูจน์ผู้ก่อเหตุต่อไป