นราธิวาส - อุตุนิยมฯ ชี้หมอกควันจากเหตุไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนิเซีย พัดปกคลุมพื้นที่ จ.นราธิวาส แต่ปริมาณควันยังอยู่ในระดับปานกลางไม่กระทบสุขภาพ แต่อาจส่งผลกระทบต่อทัศน์วิสัยการขับรถในระยะ 200-300 เมตร ด้านสาธารณสุขเตือนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แจ้ง และได้เตรียมหน้ากากอนามัยแจกประชาชนโดยทั่วไป
วันนี้ (22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมณี อุทรักษ์ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานราธิวาส เปิดเผยว่า ผลจากไฟป่าที่เกิดขึ้นบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้หมอกควันจากพื้นที่ดังกล่าวแผ่ปกคลุมเข้ามาในหลายจังหวัดของทางภาคใต้ รวมถึงจังหวัดนราธิวาส ซึ่งคุณภาพอากาศที่วัดได้ล่าสุดอยู่ที่ 65 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยยังอยู่ในระดับปานกลางที่ไม่กระทบต่อสุขภาพ แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อทัศน์วิสัยในการขับรถในระยะ 200-300 เมตร จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถในระยะนี้
ประกอบกับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พาดผ่านในพื้นที่ก็อาจทำให้หมอกควันที่ปกคลุมใน จ.นราธิวาส มีความหนาแน่นขึ้นตั้งแต่ในช่วงปลายสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ จ.นราธิวาส จะเพิ่มขึ้นเป็น 40-60 เปอร์เซ็นต์ จึงอาจทำให้สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ด้าน นายแพทย์สรรพงศ์ ฤทธิรักษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันใน จ.นราธิวาส พบความหนาแน่นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ แต่ยืนยันว่ายังอยู่ในระดับปลอดภัยเนื่องจากยังไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในกลุ่มของผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เช่น หอบ หืด ถุงลมโป่งพอง รวมถึงโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง ส่วนประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ควรสวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สถานีอนามัย และสถานบริการสาธารณสุขเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ให้แก่ประชาชนที่ไปใช้บริการแล้ว
ทั้งนี้ รายงานแจ้งว่า นอกจากเป็นกลุ่มหมอกควันจากอินโดนีเซียแล้ว ยังมีกลุ่มหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดง พื้นที่บ้านปลักปลา ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่ป่าพรุ 150 ไร่ แม้ไฟป่าจะดับได้เกือบ 100% แล้ว แต่ยังคงมีหมอกควันขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง