xs
xsm
sm
md
lg

ตรังสนธิกำลัง 3 ฝ่าย ร่วมแก้ปัญหาที่ดินทำกินจากรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - สนธิกำลัง 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมรับฟังแก้ปัญหาให้แก่กลุ่มเกษตรกรร่วมใจ ทหารผ่านศึก และผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่รวมตัวเรียกร้องขอที่ดินทำกินจากรัฐ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (13 ก.ค.) ภายในบริเวณวัดวังมะปราง (วัดน้ำฉ่า) หมู่ 2 บ้านน้ำฉา ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ได้มีชาวบ้าน ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรร่วมใจทหารผ่านศึก และผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ในพื้นที่ อ.วังวิเศษ และจังหวัดใกล้เคียง ประมาณ 400 คน รวมตัวกันประชุมในฐานะทหารของพระราชา และพสกนิกรของพระองค์ ขอที่ดินทำกินเพื่อชุมชนเข็มแข็งและเศรษฐกิจพอเพียงตามดำรัสของพ่อหลวง

โดยมี พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภจว.ตรัง นายสุวรรณ ช่วยนุกูล นายอำเภอวังวิเศษ ร.อ.นพรัตน์ มหัตเสน ทกท.ผบ.ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ และนายสันติ ลำยอง หัวหน้าสวนป่าวังวิเศษ ร่วมรับฟังชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว โดยการประชุมในครั้งนี้ได้มีการแบ่งชาวบ้านออกเป็น 5 กลุ่ม โดยมีตัวแทนกลุ่มแต่ละกลุ่มเสนอปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องที่ทำกินที่เสนอให้ภาครัฐ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ความช่วยเหลือ

นายจำนงค์ หมื่นอักษร อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 3 ต.วังคีรี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ในฐานะประธานกลุ่มกล่าวว่า การรวมตัวจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรร่วมใจ ทหารผ่านศึก และผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) เพื่อต้องการให้ทางราชการเข้มมาดูแลในเรื่องที่ทำกินให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะที่ดินที่ทางราชการสามารถจัดสรรให้ได้ ที่ดินที่เกิดจากการบุกรุกของนายทุนปลูกปาล์ม และยางพารา หรือที่ดินที่หมดสัญญาเช่า

โดยเฉพาะภายในพื้นที่สวนป่าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ วังวิเศษ พื้นที่กว่า 5 พันไร่ที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีพื้นที่ถูกบุกรุกจากกลุ่มนายทุนเข้าไปปลูกสวนยางพารา การรวมตัวเรียกร้องในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับด้านการเมือง แต่มาจากปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องของที่ทำกินของชาวบ้าน ขณะนี้มีชาวบ้านที่เดือดร้อนสมัครเข้าเป็นสมาชิกแล้วกว่า 1,000 คน การประชุมในวันนี้จะมีการรวบรวมความคิดเห็นของสมาชิกส่งผ่านหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป

นายณรงค์ ดำเอียด อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 บ้านทอนแจ้ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง กล่าวว่า การรวมตัวของชาวบ้านด้วยการจัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมานี้ เนื่องจากชาวบ้านมีความเดือดร้อนในเรื่องที่ทำกินจริงๆ กลุ่มก่อตั้งเมื่อปี 2554 และเป็นไปตามนโยบาย 66/23 ที่ทางรัฐบาลในสมัยนั้นมีนโยบายจัดสรรที่ทำกินให้แก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และทหารผ่านศึก เบื้องต้นมีการเสนอในพื้นที่ 5 แปลง คือ 1.สวนรัฐ หมู่ 3 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ มีเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ 2.สวนป่าวังวิเศษ ขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เนื้อที่กว่า 5 พันไร่ 3.สวนป่าแปลงใน หมู่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ เนื้อที่ประมาณ 1,800 ไร่

4.พื้นที่บ้านซ่านแดง เนื้อที่ประมาณ 3,500 ไร่ หมู่ 2 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ และ 5.พื้นที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์บ้านควนไฉน หมู่ 9 และ หมู่ 13 อ.วังวิเศษ โดยชาวบ้านขอที่ทำกินคนละไม่เกิน 15 ไร่ การประชุมกันในวันนี้เป็นการดำเนินกิจกรรมเพื่อร้องขอให้ภาคราชการ โดยเฉพาะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาให้ความช่วยเหลือ

พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า การเดินทางมาร่วมรับทราบรับฟังในวันนี้ เพื่อต้องการที่จะเข้าให้ช่วยแก้ปัญหาให้เกี่ยวกับกรณีที่ดิน 2 แปลงในเขตพื้นที่อำเภอวังวิเศษ ที่มีคนไปปล่อยข่าวว่าเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า และจะมีการจัดสรรให้แก่พ่อแม่พี่น้องเข้ามาทำมาหากิน ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการโกหก เนื่องจากที่ดินทั้ง 2 แปลงเป็นที่ดินของรัฐ แปลงแรกมีพื้นที่ประมาณ 2 พันไร่ เป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ขอใช้เก็บผลประโยชน์เก็บภาษีเข้ารัฐ

และอีกแปลง 5 พันกว่าไร่ เป็นขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นผู้ดูแลตามมติ ครม.โดยที่ทั้ง 2 แปลงไม่ได้เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า เป็นพื้นที่ที่รัฐใช้ประโยชน์ ทำสวนยางพาราอยู่แล้วจึงขอให้เข้าใจ ใครที่ถูกหลอกลวง ใครที่เสียเงินเสียทองไปสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อทางตำรวจได้ ในข้อหาฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน จึงขอแจ้งให้ทุกคนได้รับทราบ

สำหรับปัญหาในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่รัฐเห็นใจอยากจะช่วย แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบ การขอที่ดินทำกินจากรัฐก็มีออกกฎหมายไปแล้ว ไม่ได้ให้เป็นส่วนบุคคล แต่จะให้เป็นกลุ่ม เช่น โฉนดชุมชน ด้วยการใช้ร่วมกัน เช่น ในสวนป่าวังวิเศษแห่งนี้ หากชาวบ้านต้องการใช้ร่วมกัน จะต้องให้คนในท้องถิ่นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ประการสำคัญจะต้องมีการยกเลิกมติ ครม. ว่าที่ดินแปลงดังกล่าวยกให้เป็นพื้นที่โฉนดชุมชน ให้ประชาชนใช้ร่วมกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายจึงต้องมีความเข้าใจตรงกัน อย่าเข้าไปบุกรุก หรือกระทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ปัญหาทุกอย่างมีการแก้ไข ให้เสนอมาเป็นรายลักษณ์อักษรให้ทุกคนเซ็นชื่อ และตรวจสอบว่ายากจนจริง ทางราชการก็จะนำเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น