ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สำนักงานอัยการสูงสุด จับมือสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จัดประชุมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรม และหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ เมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
วันนี้ (8 ก.ค.) ที่โรงแรมถาวรปาล์มบีช รีสอร์ท จ.ภูเก็ต นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งทางสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2557 มีเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม และจากหน่วยงานความมั่นคง ในพื้นที่ภาค 8 ภาค 9 ร่วมประชุม
นายตระกูล วินิจฉัยภาค อัยการสูงสุด กล่าวถึงการจัดประชุมดังกล่าวว่า สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบัน นอกเหนือจากที่ปรากฏในสื่อแขนงต่างๆ เช่น ปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานข้ามชาติ และยาเสพติด ยังมีอาชญากรรมในรูปแบบอื่น ได้แก่ ปัญหาของแก๊งอาชญากรข้ามชาติที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการประกอบอาชญากรรม และฟอกเงิน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้ จึงมีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนต้องตระหนักถึงบทบาทของตน และจะต้องร่วมมือกันในการรับมือกับอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุด เห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดประชุมโครงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอาชญากรรมข้าชาติเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รับทราบปัญหา และร่วมกันหาทางออกของปัญหาให้ได้ประโยชน์สูงสุด อันเป็นการนำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าเป็นประชาคมอาเซียน และยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และการประสานงานอันดีระหว่างหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่
“ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คิดว่าปัญหาเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติในหมู่ประชาคมอาเซียนมีความสำคัญ สำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้ร่วมกับสถานบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ไม่ใช่เฉพาะเจ้าพนักงานอัยการ แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมทุกหน่วยงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แม้กระทั่งหน่วยงานความมั่นคงที่ปฏิบัติในพื้นที่ภาค 8 ภาค 9 ในประเทศไทย ได้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถทำงานร่วมกันในการป้องกันปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่มีความร้ายแรงในภูมิภาคอาเซียน” นายตระกูล กล่าวและว่า
สำหรับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ให้ความสำคัญ คือ เรื่องการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาอย่างหนึ่งซึ่งมีรากมาจากปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะว่าประเทศที่มีรายได้น้อยกว่าเรา ก็ต้องเข้ามาหางานทำในบ้านเรา ก็จะเกิดการใช้แรงงานในลักษณะของการค้ามนุษย์ได้ ก็เป็นปัญหาที่เราจะต้องช่วยกันแก้ไข ก็คิดว่าการที่ คสช.ได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมอย่างหนึ่งในการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
“ปัญหาการค้ามนุษย์ เกี่ยวกับความรุนแรงที่มีต่อเด็กและสตรี แม้ว่าจะไม่ได้เป็นปัญหาโดยตรง แต่ว่าปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี รวมถึงผู้สูงอายุ ก็จะมีตามมา มันเป็นกระบวนการลูกโซ่ รวมถึงการปัญหาการฟอกเงิน ค้าอาวุธสงคราม ปัญหาคอร์รัปชัน จะมาเป็นลูกโซ่ ซึ่งจะต้องแก้ไขไปพร้อมๆ กัน โดยในทางปฏิบัติเราเองก็พยายามให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าปัญหาคืออะไร แล้วเราจะแก้ไขกันอย่างไร” นายตระกูล กล่าวในที่สุด
ด้านนายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า สำหรับการร่วมมือกับทางสำนักงานอัยการสูงสุดในครั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันแสวงหาลู่ทางในการที่จะร่วมมือประสานกับสมาชิกเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสมาชิกอาเซียน ที่จะต้องร่วมมือกันในการที่จะธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม ทางสถาบันเพื่อการยุติธรรม แห่งประเทศไทย พร้อมที่จะสนับสนุนกิจการของสำนักงานอัยการสูงสุดต่อไปในอนาคต