ระนอง - ตำรวจน้ำระนอง รวบชาวพม่าพร้อมถังแก๊สหุงต้มไม่ผ่านศุลกากรคาเรือขนส่งในน่านน้ำไทย ยอมรับนำไปขายยังจังหวัดมะริด ประเทศพม่า
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (7 ก.ค.) พ.ต.ท.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ สว.ส.รน.1 กก.8 บก.รน. ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำสินค้าประเภทแก๊สหุงต้มลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร โดยใช้เรือบรรทุกสินค้าเป็นพาหนะในการขนส่ง จึงได้สั่งให้เรือตรวจการณ์ 635 และเรือ รน.32 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัดบริเวณร่องน้ำระนอง พบเรือกำลังแล่นอยู่บริเวณปากร่องน้ำระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง โดยหันหัวเรือมุ่งหน้าสู่จังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเรือ รน.32 ได้นำเรือแล่นออกไปตรวจสอบเบื้องต้น และนำเรือต้องสงสัยมาเทียบเรือตรวจการณ์ 635 ที่ได้ตั้งด่านจุดตรวจสกัดบริเวณแพธงไทยดีปากร่องน้ำระนอง เพื่อทำการตรวจสอบเรือไม้บรรทุกสินค้าชื่อยามาโมโต้ ขนาดกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 27 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 186 แรงม้า
จากการตรวจค้นพบ นายเชะ อายุ 29 ปี ผู้ควบคุมเรือ นายเว อายุ 30 ปี ผู้จัดการเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือ และลูกเรืออีก 4 คน ได้แก่ นามิ อายุ 42 ปี นายนาย อายุ 38 ปี นายอ่าว อายุ 30 ปี และนายเว อายุ 23 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวพม่า และถังแก๊สหุงต้ม ซึ่งภายในบรรจุแก๊สหุงต้ม น้ำหนักประมาณถังละ 45-48 กิโลกรัม จำนวน 29 ถัง วางซุกซ่อนอยู่บริเวณกลางลำเรือ ซึ่งมีลังผลไม้ทับ และผ้าใบคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารที่ใช้ประกอบการนำสินค้าออกนอกราชอาณาจักร ปรากฏว่า ไม่มีเอกสารใดๆ มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และสอบถามชาวพม่าที่ถูกจับยอมรับว่าจะนำแก๊สไปขายที่บริเวณจังหวัดมะริด ประเทศพม่า ซึ่งสินค้าดังกล่าวไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันนำหรือพาสินค้าที่มิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่ง สภ.ปากน้ำระนอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป