ตรัง - ผบก.ภ.จว.ตรัง แถลงผลการปฏิบัติการสนธิกำลังกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ตามแผน คสช.ได้ของกลางหลายรายการ ทั้งยาเสพติด อาวุธสงครามเพียบ
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรห้วยยอด จ.ตรัง พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ นายอำเภอห้วยยอด ร.อ.นพรัตน์ มหัตเสน ทำการแทนผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (ลำภูรา) พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ ผกก.สภ.ห้วยยอด ร.ท.นิพล สุขศรีราช ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก ร.15 พัน 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ทหารจากค่ายรัษฎานุประดิษฐ์ (ลำภูรา)
รวมแถลงผลการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างตำรวจภูธรห้วยยอด กอ.รมน.จังหวัดตรัง และฝ่ายปกครองอำเภอห้วยยอด ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายยาเสพติด และอาวุธปืน ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรห้วยยอด ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-1 กรกฎาคม 2557
ทั้งนี้ ผลการตรวจค้นจับกุมได้ผู้ต้องหา จำนวน 24 คน พร้อมของกลางยาบ้า 557 เม็ด ยาไอซ์ 0.25 กรัม กัญชา 40.79 กรัม อาวุธปืน 5 กระบอก เครื่องกระสุนปืนสงคราม ขนาด 5.56 มม. จำนวน 20 นัด เครื่องกระสุนขนาด .357 จำนวน 61 นัด เครื่องกระสุนขนาด .38 จำนวน 26 นัด เครื่องกระสุนขนาด .22 จำนวน 20 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด รถจักรยานยนต์ 12 คัน และตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด รวม 505,400 บาท
พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า การปฎิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง มอบหมายให้สถานีตำรวจภูธรห้วยยอด สนธิกำลังกับทางฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง เป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งได้มีการปฏิบัติงานร่วมกันมาอย่างเข้มข้น และต่อเนื่อง จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้เป็นจำนวนมาก
ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของยาเสพติด และการนำอาวุธสวครามมาก่อคดี คนร้ายมีการก่อคดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยาเสพติดแพร่ระบาดอย่างหนัก หลังจากที่มีการประกาศกฎอัยการศึก และมีการสนธิกำลังปฎิบัติงานร่วมกัน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้มากขึ้น โดยจะมีการปฏิบัติกวาดล้างจับกุมอย่างเข้มข้นกันต่อไป
นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ นายอำเภอห้วยยอด กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางอำเภอห้วยยอด มีการจัดสนธิกำลังปฏิบัติการร่วมกับทางตำรวจ และทหาร ในส่วนของฝ่ายปกครองจะมีการดำเนินการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด หรือเอกซเรย์ในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งการหาทีมหาข่าว เพื่อให้ทราบเบาะแสแหล่งของคนร้ายที่กระทำความผิด โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลม 5 หมู่บ้าน ที่จะต้องลงตรวจสอบกันต่อไป และในครั้งนี้ก็เช่นกัน การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางก็มาจากการปฏิบัติงานร่วมกันจนสามารถจับกุมผู้ต้องหา และของกลางได้เป็นจำนวนมาก
