นราธิวาส - ทหาร ตำรวจนราฯ ร่วมแถลงจับ “มะซูไฮดี ลีอาแด” ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืน และมีดแทง “นายต่วนบูรฮาน หม๊ะมะเซ็ง” ในพื้นที่ อ.ตากใบ พร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินตามกฎอัยการศึก เผยสาเหตุจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติดไม่เกี่ยวสถานการณ์ไฟใต้ วอนเจ้าหน้าที่รัฐหยุดสร้างเงื่อนไขความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส นายศุภณัฐ สิรินทวิเนติ รอง ผวจ.นราธิวาส พล.ต.ต.พัฒนวุฒน์ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส และ น.อ.นพดล ฐิติวัฒนะสกุล ผบ.นาวิกโยธินภาคใต้ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายมะซูไฮดี ลีอาแด อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืน และมีดยิงและแทง นายต่วนบูรฮาน หม๊ะมะเซ็ง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 ม.8 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิตที่บริเวณหน้าบ้านพักของผู้ตาย เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 13 มิ.ย.57 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พัฒนวุฒน์ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด ตามใบหน้าถูกมีดปลายแหลมคมฟันตามใบหน้าเป็นแผลลึก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบเป็นมีดสเตนเลสตกในที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบหัวกระสุน พบเป็นกระสุนปืนพกสั้น .38 ที่ก่อเหตุ จึงได้สั่งการระดมเจ้าหน้าที่ ตำรวจเข้าตรวจสอบมือปืนก่อเหตุ และสามารถจับกุม นายมะซูไฮดี ผู้ต้องหาได้ และส่งตัวตามกฎอัยการศึกให้เจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาสอบขยายผล
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำส่งอาวุธปืน .38 กระสุนปืน 5 นัด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และพบว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนกระบอกเดียวกันที่ใช้ก่อเหตุยิง นายต่วนบูรฮาน หม๊ะมะเซ็ง เสียชีวิต โดยผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ทำไปเพราะเรื่องส่วนตัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และผู้ตายเคยข่มขู่ และนำคนจะมายิงตนหลายครั้ง ตนจึงตัดสินใจโดยลำพัง และลงมือฆ่าก่อน และยืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยงโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่แต่อย่างใด
สำหรับประวัติ นายมะซูไฮดี ผู้ต้องหา เคยต้องคดีพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลตัดสินจำคุก 9 เดือน และเมื่อพ้นคดี 5 เดือน จึงมายึดอาชีพค้าน้ำมันเถื่อน และได้ตัดสินใจค้ายาบ้า และเสพยาจนเกิดเรื่องบาดหมางในวงการธุรกิจค้ายาเสพติดกับผู้ตายซึ่งอยู่ละแวกใกล้เคียงจนเกิดเหตุยิงเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า เป็นคดีขัดแย้งส่วนตัวชัดเจน และอาวุธปืนที่ก่อเหตุไม่เคยปรากฏก่อเหตุในคดีใดมาก่อน หรือเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้
ขณะที่ นายศุภณัฐ สิรินทวิเนติ รอง ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า คดีหลายคดีเจ้าหน้าที่ได้ทำความกระจ่าง แต่อย่างไรก็ตาม ในเดือนรอมฎอน ทางจังหวัดมีความกังวลถึงเหตุความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้น จึงได้ประสานทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติการตามแผนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มงวดด้วยความรัดกุม และไม่ประมาท โดยให้เจ้าหน้าที่อย่าสร้างเงื่อนไขในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งพี่น้องชาวไทยมุสลิมต้องถือศีลอด และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือต่อทางราชการด้วยการเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลบุคคลที่อาจแฝงตัว และก่อเหตุร้ายในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ เพื่อให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการให้อภัย และลดความรุนแรงทุกรูปแบบ
