ระนอง - ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ลงพื้นที่ทั่วเมืองระนอง ประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจต่อนายจ้าง และลูกจ้างแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ถึงการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบ ย้ำทหารจะปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ไม่มีการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวเหมือนที่ข่าวออกไป
วันนี้ (17 มิ.ย.) พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำผู้ใต้บังคับบัญชาลงพื้นที่ทั่วเมืองระนอง ประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ นายจ้าง ลูกจ้างแรงงานต่างด้าว รวมไปถึงประชาชนชาวพม่าที่เดินทางเข้าออกจังหวัดระนอง เพื่อทำธุระให้เข้าใจถึงการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ไม่ใช่การปราบปราม แต่เป็นการช่วยเหลือให้แรงงานต่างด้าวได้สิทธิเท่าเทียมในการทำงาน และสิทธิที่แรงงานพึงได้ตามสัญญาจ้างงาน ซึ่งเป็นนโยบายของ คสช. ที่จะนำแรงงานเข้าระบบ
“ขอยืนยันว่า ทหารปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน เชื่อว่า มาตรการที่กำลังจะออกมาของ คสช. จะแก้ไขปัญหาแรงงานให้เข้าสู่ระบบ และถูกต้อง ทั้งนี้ โดยเริ่มต้นจากสถานประกอบการแพปลาต่างๆ ที่มีแรงงานทำงานอยู่จำนวนมากเป็นอันดับแรก จากนั้นจะได้ทยอยประชาสัมพันธ์ไปยังทุกสถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวทำงาน”
พ.อ.เกรียงไกร เปิดเผยว่า ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศให้มีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว แต่มีการเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่จะทำการปราบปรามจับกม วันนี้ได้นำกำลังพลออกมาทำความเข้าใจทั้งในส่วนผู้ประกอบการกิจการขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.เมืองระนอง ที่มีแรงงานจำนวนมาก เป็นอับต้นก่อน เพื่อให้เข้าใจถึงการทำงาน ไม่ใช่ไปเชื่อข่าวลือที่ออกมาก่อนช่วงหน้านี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อทำความเข้าใจก็ได้รับข้อมูลว่าทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันในการทำหน้าที่ของทหารขอยืนยันว่า ทหารจะปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนเชื่อว่า มาตรการที่กำลังจะออกมาของ คสช. จะแก้ไขปัญหาแรงงานให้เข้าสู่ระบบ และถูกต้อง
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง พบว่า ในแต่ละวันจะมีประชาชนชาวพม่าทั้งในส่วนที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของ หรือเดินทางมาทำธุระประมาณวันละกว่า 700-800 คน และกลับออกไปในช่วงเย็นประมาณ 700 กว่าคนเช่นกัน ซึ่งถือว่าระนอง อยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีการอพยพแรงงาน
