หน.อุทยานฯ เจ้าไหม เผยเหตุคลื่นยักษ์ซักหาดปากเมง เป็น “เหตุบังเอิญ”

ตรัง - จากเหตุการณ์คลื่นสูงกว่า 2 เมตรซัดถล่มริมหาดปากเมง จ.ตรัง ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หน.อุทยานฯ จ.ตรัง ระบุเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติตามฤดูกาล เตรียมสร้างแนวกั้นต้นไม้อายุ 60-70 ปี หวั่นล้มหลังถูกน้ำซัด ด้านเกาะลิบง อ.กันตัง มีกระเบื้องหลังคาถูกลมพัดเสียหาย 5-6 หลัง แนวกั้นคลื่นพัง น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านริมฝั่ง

วันนี้ (14 มิ.ย.) จากปรากฏการณ์ที่บริเวณริมหาดปากเมง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา มีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซัดเข้าหาฝั่ง ทำให้บ้านเรือน ร้านค้า รีสอร์ต ที่พัก โรงแรมริมชายหาดถูกน้ำท่วม ชาวบ้านต้องขนข้าวของ โต๊ะ เก้าอี้ที่วางไว้ริมหาดหนีน้ำกันจ้าละหวั่น โดยคลื่นลมที่แรงพัดถล่มตลอดเวลา ซึ่งบางจุดน้ำทะเลทะลักเข้าร่วมสูงเกือบ 30 ซม. และคาดว่าจะเป็นลักษณะนี้อีกหลายวันต่อเนื่อง

ดร.มาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติของธรรมชาติตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ยอมรับว่าปีนี้อาจรุนแรงกว่าทุกปี เนื่องจากบางวันอาจจะมีกระแสลม ประกอบกับมีคลื่นสูง และมีฝนตก ซึ่งบางวันวัดปริมาณน้ำฝนได้มากถึง 80 มล. จนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า ริมหาดดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะเกิดลักษณะนี้ทุกครั้ง

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเพียงแค่ความบังเอิญเท่านั้น และยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือนักท่องเที่ยวติดเกาะแต่อย่างใด และตนคิดว่า ผู้ประกอบการที่ค้าขายอยู่ริมฝั่งก็ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติด้วยสิ่งของ หรือสิ่งก่อสร้าง รุกล้ำเข้าไปริมหาดก็ต้องเก็บหรือรื้อถอนออกมา ทั้งนี้ ช่วงนี้เป็นฤดูมรสุม ทางอุทยานฯ หาดเจ้าไหม จ.ตรัง ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวมาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 ก.ย.57 เพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติ หลังจากที่ผ่านมาใช้มาอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ขอเตือนนักท่องเที่ยว และชาวประมงให้ติดตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

หน.อุทยานฯ หาดเจ้าไหม จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยานฯ เตรียมคุยกับทางจังหวัด เพื่อจัดสรรงบประมาณกั้นแนวริมชายหาดป้องกันน้ำซัดต้นไม้ โดยเฉพาะต้นสนที่มีอายุ 60-70 ปี โดยคาดว่าจะสามารถชะลอการชะล้างจากน้ำทะเลได้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับความเสียหาย เนื่องจากถูกลมพัดกระเบื้องมุงหลังคา 5-6 หลังคาเรือน และกระแสน้ำ และลมที่พัดแรงทำให้แนวกำแพงที่กั้นคลื่นพังลงมา ทำให้น้ำทะเลทะลักท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่งต้องขนข้าวของ เครื่องใช้หนีน้ำ และเดือดร้อนจากคลื่นสูงไม่สามารถออกประกอบอาชีพประมงได้ ขาดรายได้วันละ 1,000-2,000 บาท นายสิทธิพร จิเหลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลิบง จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ทาง อบต.ได้ให้การช่วยเหลือแล้วในเบื้องต้น ส่วนแนวกำแพงที่ถูกน้ำซัดจนพังนั้น เตรียมซ่อมแซมด้วยกันนำก้อนหินขนาดใหญ่มาวางแนวเขตแทน เนื่องจากฤดูมรสุมเพิ่งเริ่มต้นขึ้น และยังเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีก 3-4 เดือนข้างหน้า