พังงา - ชาวประมงพื้นบ้านอำเภอท้ายเหมือง จ.พังงา ตื่นน้ำทะเลหนุนสูงสุดในรอบ 20 ปี ทำปลากะพงที่เลี้ยงไว้ในกระชัง เสียหายกว่า 1 แสนบาท
วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายกริช สิทธิบุตร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/14 ม.3 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่กระชังเลี้ยงปลาของตนเองที่บ้านในไร่ ม.7 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้เกิดเหตุการณ์น้ำทะเลหนุน และคลื่นสูงซัดเข้ามาที่ปากอ่าวบ้านในไร่ ทำให้กระชังเลี้ยงปลาของตนเองได้รับความเสียหายกว่า 1แสนบาท
นายกริช สิทธิบุตร เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้ามาลงทุนเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณปากอ่าวบ้านในไร่มากว่า 20 ปีแล้ว ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่น้ำทะเลหนุนสูงมากถึงระดับนี้มาก่อน ทำให้แท่งโฟมพร้อมกับไม้กระดานที่นำมาเตรียมไว้ทำกระชังเลี้ยงปลาลอยหายไปออกทะเลใหญ่ และด้วยความแรงกระแสน้ำได้พัดพาเศษไม้ต่างๆ มากระแทกกระชัง สร้างความเสียหายทำให้ปลากะพงขาวที่เลี้ยงมาประมาณ 11 เดือน หลุดจากกระชังหายไป
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ถึงกำหนดที่พ่อค้าจะมาซื้อปลาทั้งหมด แต่เหตุการณ์คลื่นสูง และน้ำเทพเลหนุนทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ว่ายน้ำออกจากกระชังเกือบหมด คาดว่าความเสียหายเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท ส่วนปลาที่เหลืออยู่นั้นชาวบ้านในพื้นที่ได้มาช่วยกันจับออกจากกระชังจนหมด ส่วนสาเหตุที่น้ำทะเลหนุนสูงมากนั้น น่าจะเป็นเพราะช่วงน้ำใหญ่ วันแรม 1 ค่ำ แต่ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยเห็นขึ้นสูงถึงระดับนี้มาก่อน
ขณะที่ ร.ท.กำพล พงษ์มิตร นายทหารพยากรณ์ กองอุตุนิยมวิทยา กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เปิดเผยว่า สาเหตุมีคลื่นลมแรง และน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงมากนั้นเกิดจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรงพัดพาเอามวลน้ำเข้าสู่ชายฝั่ง ประกอบกับเป็นช่วงของวันแรม 1 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้น-ลง มากที่สุด ทำให้ระดับน้ำขึ้นสูงมากกว่าปกติ และลมมรสุมจะมีกำลังแรงสูงสุดในวันที่ 14-15 มิถุนายน ขอให้ชาวประมงระมัดระวังในการเดินเรือ และการดูแลทรัพย์สินที่อยู่ริมฝั่งทะเลโดยควรติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างเสมอ
