ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ธุรการกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลรัษฎา จ.ภูเก็ต เข้าแจ้งความตำรวจ ถูกรองนายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลรัษฎา ทำร้ายร่างกายขณะนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน จนได้รับบาดเจ็บ และมึนศีรษะ ขณะที่นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา บอกยังไม่ได้รับรายงาน
นายเวนิช ธัมมะวงษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็น เจ้าหน้าที่ธุรการระดับการ 5 กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลรัษฎา เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.(หญิง) พรทิพย์ ชุมศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ว่า ถูกรองนายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลรัษฎา ทำร้ายร่างกายขณะนั่งทำงานอยู่ในกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลรัษฎา จนได้รับบาดเจ็บ และมึนศีรษะ โดยเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (12 มิ.ย.) ร.ต.อ.(หญิง) พรทิพย์ ชุมศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้เชิญตัว นายเวนิช ธัมมะวงษ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รวมทั้งมีการเรียกพยานมาสอบปากคำด้วย จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายเวนิช ธัมมะวงษ์ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการ 5 ของเทศบาลตำบลรัษฎา นั่งทำงานอยู่ในเทศบาล ในขณะนั้นก็ได้มี นายสุนทรรศน์ พีรดนย์โกเศส รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา เข้ามาหาที่ห้องทำงาน และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องโครงการรับเหมาตัดหญ้า ว่า ดำเนินการเรียบร้อยแล้วหรือไม่ และถามว่าตนรู้หรือไม่เป็นของใคร โดยตนบอกว่าเร่งดำเนินการให้อยู่
จากนั้น นายสุนทรรศน์ ก็ได้ใช้กำปั้นทุบที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนทำให้ศรีษะของตนเกือบถูกโต๊ะทำงาน ซึ่งหลังจากถูกกำปั้นทุบก็รู้สึกมึนหัวจนต้องนอนฟุบกับโต๊ะทำงาน จากนั้น รองนายกฯ คนดังกล่าวยังได้พูดจาด่าทอแบบสาดเสียเทเสีย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ซึ่งตอนแรกตนไม่คิดจะแจ้งความ แต่การกระทำดังกล่าวของรองนายกฯ เป็นการกระทำที่ย่ำยีศักดิ์ศรีของข้าราชการอย่างมาก และการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในสำนักงาน ต่อหน้าพนักงานในสำนักงานจำนวนมาก หากตนไม่ลุกขึ้นมาแจ้งความก็จะทำให้ข้าราชการ ถูกข้าราชการการเมืองกดขี่ข่มเหงให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรต่อไป การลุกขึ้นมาแจ้งความครั้งนี้ เพื่อเป็นกอบกู้ศักดิ์ศรีของเพื่อนข้าราชการทุกคน และจะดำเนินคดีถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ตนกำลังทำเรื่องขอย้ายตัวเองไปอยู่ที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดชั่วคราว เพราะคิดว่าจะไม่ปลอดภัย
ขณะที่ นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 คนมาสอบถามข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนรองนายกเทศมนตรี ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ ทราบว่ามีการแจ้งขอลาพักผ่อนเป็นเวลา 5 วัน
นายเวนิช ธัมมะวงษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็น เจ้าหน้าที่ธุรการระดับการ 5 กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลรัษฎา เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.(หญิง) พรทิพย์ ชุมศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ว่า ถูกรองนายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลรัษฎา ทำร้ายร่างกายขณะนั่งทำงานอยู่ในกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลรัษฎา จนได้รับบาดเจ็บ และมึนศีรษะ โดยเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (12 มิ.ย.) ร.ต.อ.(หญิง) พรทิพย์ ชุมศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้เชิญตัว นายเวนิช ธัมมะวงษ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต รวมทั้งมีการเรียกพยานมาสอบปากคำด้วย จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ นายเวนิช ธัมมะวงษ์ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการ 5 ของเทศบาลตำบลรัษฎา นั่งทำงานอยู่ในเทศบาล ในขณะนั้นก็ได้มี นายสุนทรรศน์ พีรดนย์โกเศส รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา เข้ามาหาที่ห้องทำงาน และสอบถามเกี่ยวกับเรื่องโครงการรับเหมาตัดหญ้า ว่า ดำเนินการเรียบร้อยแล้วหรือไม่ และถามว่าตนรู้หรือไม่เป็นของใคร โดยตนบอกว่าเร่งดำเนินการให้อยู่
จากนั้น นายสุนทรรศน์ ก็ได้ใช้กำปั้นทุบที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนทำให้ศรีษะของตนเกือบถูกโต๊ะทำงาน ซึ่งหลังจากถูกกำปั้นทุบก็รู้สึกมึนหัวจนต้องนอนฟุบกับโต๊ะทำงาน จากนั้น รองนายกฯ คนดังกล่าวยังได้พูดจาด่าทอแบบสาดเสียเทเสีย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ซึ่งตอนแรกตนไม่คิดจะแจ้งความ แต่การกระทำดังกล่าวของรองนายกฯ เป็นการกระทำที่ย่ำยีศักดิ์ศรีของข้าราชการอย่างมาก และการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในสำนักงาน ต่อหน้าพนักงานในสำนักงานจำนวนมาก หากตนไม่ลุกขึ้นมาแจ้งความก็จะทำให้ข้าราชการ ถูกข้าราชการการเมืองกดขี่ข่มเหงให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรต่อไป การลุกขึ้นมาแจ้งความครั้งนี้ เพื่อเป็นกอบกู้ศักดิ์ศรีของเพื่อนข้าราชการทุกคน และจะดำเนินคดีถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ตนกำลังทำเรื่องขอย้ายตัวเองไปอยู่ที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดชั่วคราว เพราะคิดว่าจะไม่ปลอดภัย
ขณะที่ นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะเรียกคู่กรณีทั้ง 2 คนมาสอบถามข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนรองนายกเทศมนตรี ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ ทราบว่ามีการแจ้งขอลาพักผ่อนเป็นเวลา 5 วัน