ตรัง - จังหวัดตรัง เดินหน้ากวาดล้างอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุน ตามนโยบายของ คสช. จับผู้ต้องได้กว่า 450 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 417 กระบอก กระสุน 2,300 นัด เป็นอาวุธสงคราม 8 กระบอก กระสุน 125 นัด รวมทั้งระเบิดอีก 2 ลูก
วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. นายสมศักดิ์ ปริสุทธิโธ เหมทานนท์ ผวจ.ตรัง พร้อมด้วย พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง ร่วมแถลงข่าวผลการการปฏิบัติงานจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ในพื้นที่จังหวัดตรัง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ซึ่งปรากฏว่า ในช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 มาจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 440 คดี ผู้ต้องหา 472 คน ได้ของกลางเป็นอาวุธปืน 417 กระบอก กระสุน 2,300 นัด อาวุธสงคราม 8 กระบอก กระสุน 125 นัด รวมทั้งระเบิดอีก 2 ลูก โดยเฉพาะในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการระดมกำลังจับกุมอย่างหนัก จนสามารถตรวจยึดอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก และจะเดินหน้าดำเนินการตามนโยบายอย่างเข้มข้นเพื่อกวาดล้างให้หมดสิ้นต่อไป
ซึ่งหลังจากนี้ ผู้ถูกจับกุมจะมีโทษจำคุกในเรือนจำทหาร เป็นระยะเวลา 2-4 ปี พร้อมตรวจสอบอาวุธปืนที่ยึดมาทั้งหมดว่าเคยพัวพันต่อคดีใดบ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พ.อ.อัษฎา แสงฤทธิ์ รอง ผอ.รมน.ตรัง กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการสนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าทำการตรวจค้นจับกุมอาวุธปืนเป็นจำนวนกว่า 10 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จังหวัดตรัง ยังไม่ตรวจพบแหล่งผลิต และส่วนใหญ่เป็นอาวุธปืนชนิดไทยประดิษฐ์ ซึ่งแอบผลิตกันเองเพื่อนำมาใช้ก่อเหตุบ่อยครั้ง โดยต่อไปจะกวดขันจับกุมให้มากขึ้น และมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติงาน
พร้อมมอบอำนาจให้สามารถตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายศาล สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสัญญาบัตร เนื่องจากอยู่ในระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึก ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเพียงแค่กำลังสนับสนุนเท่านั้น ด้าน นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผวจ.ตรัง กล่าวว่า ล่าสุด ตนเองได้เสนอต่อทางผู้ใหญ่ไปว่า ผู้กระทำความผิดในคดีอาวุธปืน อาวุธสงคราม เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ถ้าหากศาลมีคำตัดสินอย่างไรจะต้องรับโทษเท่านั้น และไม่ควรมีการลดหย่อนโทษให้อีกต่อไป