นายกป่าตองคนใหม่แถลงนโยบายยึดหลักคิดตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง คนใหม่ แถลงนโยบายการทำงานต่อที่ประชุมเทศบาลเมืองป่าตอง ในการเปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2557 โดยยึดหลักคิดตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี โดยการใช้กลไกเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้จัดให้มีการประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2557 เพื่อให้ น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองคนใหม่ แถลงนโยบาย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดที่จะต้องมีการประชุมแถลงนโยบายภายใน 30 วัน หลังประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ทาง กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค.57

หลังจากเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2557 ได้มีการประชุมสภาเป็นครั้งแรก แต่ได้มีประกาศยกเลิกการประชุม เนื่องจากมีสมาชิกสภาเทศบาลเข้าร่วมประชุมไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด แต่ในครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สอง สมาชิกสภาฯ มาเกินครึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงสามารถเปิดประชุมได้ โดยมี นายธานินทร์ อรรถทรัพย์ ประธานสภาเทศเมืองป่าตอง ได้เปิดการประชุมสภาเทศบาลเมืองป่าตอง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ประจำปี 2557 โดยให้สมาชิกสภาฯ ใหม่ กล่าวปฏิญาณตนก่อนที่จะเริ่มประชุม

หลังจากนั้น น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองคนใหม่ แถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 13 พ.ศ.2552 มาตรา 48 ซึ่งกำหนดให้นายกเทศมนตรีต้องแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ในการบริหารกิจการเทศบาล ตนได้กำหนดนโยบายการบริหารโดยยึดหลักคิดตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี โดยการใช้กลไกเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นเข็มทิศในการพัฒนาเมืองป่าตอง ด้วยการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมพัฒนา ร่วมตรวจสอบ ร่วมประเมิน ร่วมรับผิดชอบ และร่วมรับผลของการพัฒนาเมือง ภายใต้วิสัยทัศน์ “ป่าตอง เมืองน่าเที่ยว น่าอยู่อย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ ยังจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหา และดำเนินโครงการต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพโดยยึดถือเอาผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น และประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ 1.นโยบายด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเมือง 3.นโยบายด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 4.นโยบายด้านสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน และ 5.นโยบายด้านการบริหารจัดการและการเมือง

ทั้งนี้ นโยบายที่นำเสนอต่อสภาฯ เป็นนโยบายที่กำหนดขึ้นมาจากพื้นฐานของความเป็นจริงในสภาพการณ์ปัจจุบันทั้งสิ้น เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง แก้ไขเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ต่อไป