ปัตตานี - หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ร่วมพบปะพูดคุยชาวไทยมุสลิมเพื่อรับทราบถึงปัญหาการประกอบศาสนกิจในพื้นที่ จชต. หลัง คสช.รัฐประหาร ประกาศกฎอัยการศึก และเคอร์ฟิวหลังเที่ยงคืน ด้านผู้นำศาสนาเสนอผ่อนปรนระยะเวลาเคอร์ฟิว หวั่นกระทบถือศีลอดช่วงเดือนรอมฎอน
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อม ผบ.หน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ได้ร่วมพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจอันดี พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตน โดยเฉพาะการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในแต่ละท้องที่ ตามการจัดโครงการพบปะพัฒนาความสัมพันธ์ และทำความเข้าใจแก่กลุ่มผู้นำศาสนา อิหม่ามประจำมัสยิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี ร่วมรับฟังปัญหา และร่วมเสนอแนวทางแก้ไขรวมถึงข้อควรปฏิบัติตน โดยเฉพาะการเดินทางไปประกอบศาสนกิจ หรือทำละหมาดของชาวไทยมุสลิมในช่วงประกาศใช้เคอร์ฟิวที่อาจจะส่งผลประทบต่อการถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน ที่ใกล้จะมาถึงในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ กลุ่มผู้นำศาสนาได้เสนอแนะแนวทางให้ทางฝ่ายทหารมีการลดหย่อนเรื่องเงื่อนไขเวลาช่วงประกาศใช้เคอร์ฟิว โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด เพื่อให้สามารถประกอบศาสนกิจตามหลักศาสนาได้อย่างเสรี และเป็นการป้องกันอันจะนำไปสู่การสร้างเงื่อนไขระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ในอนาคต
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี กล่าวว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยเฉพาะการบังคับใช้ประกาศเคอร์ฟิวในส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นย่อมส่งผลลกระทบต่อการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อย่างแน่นอน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ก็ได้ร่วมหารือกับฝ่ายทหาร โดยเฉพาะแม่ทัพภาค 4 ได้รับคำตอบว่ามีการชี้แจง และทำความเข้าใจให้แก่หน่วยเหนือถึงความจำเป็นของชาวไทยมุสลิมใน ซึ่งต่างก็เข้าใจและเห็นควรอนุโลมให้มีการปฏิบัติได้ตามปกติ และไม่ได้ห้าม หรือกีดกันถึงแม้จะอยู่ในช่วงของการก่อรัฐประหาร และมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวก็สามารถออกมาละหมาดตามมัสยิดได้ตามปกติ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี พล.ต.ชลิต เมฆมุกดา ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อม ผบ.หน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ได้ร่วมพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจอันดี พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตน โดยเฉพาะการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในแต่ละท้องที่ ตามการจัดโครงการพบปะพัฒนาความสัมพันธ์ และทำความเข้าใจแก่กลุ่มผู้นำศาสนา อิหม่ามประจำมัสยิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยมี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี ร่วมรับฟังปัญหา และร่วมเสนอแนวทางแก้ไขรวมถึงข้อควรปฏิบัติตน โดยเฉพาะการเดินทางไปประกอบศาสนกิจ หรือทำละหมาดของชาวไทยมุสลิมในช่วงประกาศใช้เคอร์ฟิวที่อาจจะส่งผลประทบต่อการถือศีลอดในช่วงเดือนรอมฎอน ที่ใกล้จะมาถึงในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ กลุ่มผู้นำศาสนาได้เสนอแนะแนวทางให้ทางฝ่ายทหารมีการลดหย่อนเรื่องเงื่อนไขเวลาช่วงประกาศใช้เคอร์ฟิว โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด เพื่อให้สามารถประกอบศาสนกิจตามหลักศาสนาได้อย่างเสรี และเป็นการป้องกันอันจะนำไปสู่การสร้างเงื่อนไขระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ในอนาคต
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี กล่าวว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยเฉพาะการบังคับใช้ประกาศเคอร์ฟิวในส่วนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นย่อมส่งผลลกระทบต่อการปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อย่างแน่นอน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าว ก็ได้ร่วมหารือกับฝ่ายทหาร โดยเฉพาะแม่ทัพภาค 4 ได้รับคำตอบว่ามีการชี้แจง และทำความเข้าใจให้แก่หน่วยเหนือถึงความจำเป็นของชาวไทยมุสลิมใน ซึ่งต่างก็เข้าใจและเห็นควรอนุโลมให้มีการปฏิบัติได้ตามปกติ และไม่ได้ห้าม หรือกีดกันถึงแม้จะอยู่ในช่วงของการก่อรัฐประหาร และมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวก็สามารถออกมาละหมาดตามมัสยิดได้ตามปกติ
