ปัตตานี - เผย จยย.บอมบ์ที่ลานจอดรถโรงพยาบาลโคกโพธิ์เป็นรถที่ถูกแจ้งหายที่ สภ.หนองจิก เมื่อต้นปี 2557 ส่วนเหตุระเบิดครั้งใหญ่หลายจุดในย่านเศรษฐกิจเมืองปัตตานี มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต พบสารประกอบระเบิดเป็นสารที่ใช้ในส่วนราชการ และมีความแม่นยำในการคำนวณผลทำลายล้าง ด้านประชาชนผวา หลังจากเกิดระเบิดซ้ำต่อเนื่อง
วันนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่จอดรถจักรยานยนต์บริเวณลานหน้าโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกองร้อยรักษาดินแดนอำเภอโคกโพธิ์ ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย พลทหาร 1 นาย และชาวบ้านทั่วไปอีก 5 ราย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้สนธิกำลังสามฝ่ายเข้าตรวจสอบ และตรึงกำลังปิดล้อมแล้วมีการตั้งด่านตามเส้นทางเข้าออกตัวอำเภอโคกโพธิ์ เพื่อตรวจค้นติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ยังไม่พบรายงานการควบคุมตัวผู้ต้องหา หรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุด EOD ของชุดอโนทัย กองทัพบก ค่ายสิรินธร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานปัตตานี ได้เข้ามาตรวจสอบ และเข้าเคลียร์พื้นที่ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบความเสียหายอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุไว้ในกล่องเหล็กมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 10 กิโลกรัม แล้วนำมาซุกไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ แล้วนำมาจอดไว้ภายในโรงจอดรถจักรยานยนต์ของผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลโคกโพธิ์ โดยจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำมาซุกระเบิดในครั้งนี้ จากการตรวจสอบเลขเครื่องยนต์ และเลขตัวรถเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และได้มีการบันทึกการแจ้งหายเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 ไว้ที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งจากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ระบุว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดปัตตานีมีสถิติรถแจ้งหายใน สภ.ท้องที่ต่างๆ มากกว่า 20 คัน จึงยากต่อการติดตามลักษณะ รูปพรรณ หรือตำหนิของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้อย่างสะดวก จนกระทั่งสุดท้ายก็กลายเป็นเครื่องมือของคนร้ายนำมาประกอบระเบิด
ส่วนความคืบหน้าของคดีเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในตัวเมืองปัตตานีที่ผ่านมานั้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 50 ราย นอกจากนั้น ยังทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงถูกระเบิดล้มระเนระนาด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับสนิททั้งคืน บางส่วนยังไม่สามารถจ่ายกระแสไฟได้ตามปกตินาน 2-3 วัน ส่งผลกระทบให้ระบบน้ำประปาไม่สามารถผลิต และจำหน่ายประปาสู่ครัวเรือนได้ถึง 2 วัน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ใช้น้ำประปาที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ แต่นับเป็นเรื่องที่โชคดี ที่เมืองปัตตานี มีคลองน้ำจืดผ่านกลางเมืองปัตตานี ก่อนสู่ทะเลอ่าวไทย จึงทำให้ประชาชนสามารถตักช้อนน้ำดังกล่าวมาอาบ และล้างถ้วยชาม จึงสามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนคดีนั้น เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมภาพถ่ายในวงจรปิดที่มีอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงเพื่อใช้ในการติดตามตัวคนร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากกรณีเหตุระเบิดในตัวเมืองปัตตานีในครั้งนี้ นับเป็นการลอบวางระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ จึงเกิดมีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ ฝ่ายตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องวัตถุระเบิดในหลายประเด็น โดยเฉพาะสารที่ใช้ประกอบระเบิดเป็นสารระเบิดที่ใช้ในราชการ หรือที่เรียกว่าเป็นสารระเบิดที่มีมาตรฐาน ไม่เหมือนกรณีที่ผ่านๆ มา มีความหลากหลายของสารที่นำประกอบระเบิด
แต่ครั้งนี้เป็นสารชนิดเดียวกัน มีความแม่นยำของการคำนวณระเบิดกับวัตถุที่จะหมายทำลาย จะสังเกตได้ว่า เสาไฟฟ้ามีขนาดไม่เท่ากัน ระเบิดที่ถูกนำมาวางกลับมีขนาดต่างกันตามขนาดของเสาไฟฟ้า และสามารถทำลายเสาไฟในส่วนที่เป็นต้นทางของการจ่ายกระแสไฟเข้าสู่ตัวเมือง จนทำให้ไฟดับสนิททั้งเมือง ถ้าไม่มีความชำนาญจริงคงยากที่จะดำเนินการได้ถึงขนาดนี้ ส่วนขนาดของระเบิดที่ถูกนำไปวางไว้ภายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ ที่มีขนาดไม่เกิน 3 กิโลกรัม นอกจากนั้น หลังเกิดเหตุไม่พบการวางตะปูเรือใบตามเส้นทางที่ใช้เป็นเส้นทางหลบหนีเหมือนที่ผ่านๆ มา
จึงทำให้หลายฝ่ายต่างวิตกต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะถ้าเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนเพียงลำพัง เส้นทางของกระบวนการสร้างสันติสุขในพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะมืดสนิท ไม่มีแสงไฟในปลายอุโมงค์จริง พูดได้เพียงอย่างเดียวว่า คนในพื้นที่เตรียมรอรับชะตากรรมได้เพียงอย่างเดียว
ตลอดทั้งวันของวันนี้หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่จอดรถจักรยานยนต์ของโรงพยาบาลโคกโพธิ์ ทำให้บรรยากาศในพื้นที่เต็มไปด้วยความวิตกต่อเหตุระเบิด ตรงไหนมีระเบิด ตรงไหนไม่มีระเบิด เพราะประชาชนในพื้นที่กลับไม่มั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินว่าตรงไหนคือที่ปลอดภัยสำหรับการดำรงชีวิตของพวกเขา เพราะแม้เจ้าหน้าที่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย แล้วประชาชนทั่วไปแล้วเขารู้สึกเช่นไร
