ยะลา - เจ้าหน้าที่ทหารพราน ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่ อ.เบตง ช่วยตรวจสอบเป็นหูเป็นตารถต้องสงสัยในย่านเศรษฐกิจ เพื่อป้องกัน และลดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน หลังกลุ่มคนร้ายเข้าก่อเหตุลอบวางระเบิดในเมืองเศรษฐกิจ พร้อมทั้งชี้แจงกฎอัยการศึกแก่ผู้ประกอบการ
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ห้องประชุมปิยมิตร โรงแรมการ์เด้นวิวเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 33 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วสัตน์ พวงน้อย ผกก.สภ.เบตง นายสุทธินัย เปรมรัชชานนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ ฝ่ายปกครองในการสอดส่องดูแล และเฝ้าสังเกตสิ่งของต้องสงสัย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย พร้อมทั้งเฝ้าสังเกตพฤติกรรมต้องสงสัยของกลุ่มคนร้ายที่พยายามนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดเพื่อก่อเหตุ ซึ่งเมื่อผู้ใดพบเห็นให้รีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันและลดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 33 กล่าวว่า หลังจากที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายเข้าก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี หลายจุดซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายยังคงมีเป้าหมายในการก่อเหตุในพื้นที่เศรษฐกิจ ทางเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้บูรณการร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในย่านเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง และสังเกตวัตถุ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย เพื่อเป็นเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่งด้วย
นอกจากการขอความร่วมมือในการป้องกันเหตุความรุนแรงในพื้นที่แล้ว ยังได้เชิญนักการเมือง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการโรงแรม ธนาคาร พนักงานร้านสะดวกซื้อ และผู้นำกลุ่มมวลชนในพื้นที่ เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกรณีทหารประกาศกฎอัยการศึก
ทั้งนี้ พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผบ.ฉก.ทหารพรานที่ 33 ยังได้ร้องขอความร่วมมือให้ทุกฝ่าย ปรับทัศนคติ และช่วยทำความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ขอให้สื่อนำเสนอข่าวสารโดยไม่ยุยงปลุกปั่น โดยเชื่อว่า สถานการณ์จะคลี่คลายในทางที่ดี นอกจากนี้ พ.อ.นพดล ยังย้ำว่า ให้หน่วยงานของภาครัฐทำงานไปตามปกติ ทหารจะปฏิบัติต่อผู้ที่ขัดขืนและผู้ที่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น
พร้อมกันนี้ ยังขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าว และช่วยประชาสัมพันธ์ ผู้ที่จะเข้ามาในร้านสะดวกซื้อให้ฝากกระเป๋าไว้ด้านหน้าร้าน และขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งของกองอำนวยการรักษาความเรียบร้อยทุกฉบับอย่างเคร่งครัด และยังย้ำว่า หากพบการกระทำความผิดต่อความมั่นคงในช่วงประกาศกฎอัยการศึก จะต้องขึ้นศาลทหารเท่านั้น