นราธิวาส - กงสุลเมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย เตือนแรงงานไทยหลีกเลี่ยงการเข้าไปทำงานในมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายผ่านนายหน้าเถื่อน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากภาคเหนือ และอีสาน ขณะที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ จนท.รัฐบาลมาเลย์จะมีการปราบปรามอย่างหนัก
วันนี้ (27 พ.ค.) นายเปายี แวสาแม กงสุลประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ห่วงปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานมาเลเซียที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลมาเลเซียจะมีการปราบปรามอย่างหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยพบว่า กลุ่มนายหน้าเถื่อนจะใช้กลอุบายในการชักจูงให้คนไทยหลงเชื่อว่า การเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียจะได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่าในประเทศไทย แม้จะลักลอบเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มของแรงงานจากภาคเหนือ และภาคอีสาน เป็นกลุ่มแรงงานส่วนใหญ่ที่ถูกหลอกเข้าไปขายแรงงานผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซีย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับลักษณะงานหลังกลุ่มแรงงานไทยถูกหลอกเข้าไปในประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย จะเป็นงานกรรมกรก่อสร้าง และขายแรงงานในโรงงานขนาดเล็ก โดยจะให้ไปพักรวมกันในบ้านพัก หรือสถานที่ที่จัดไว้ให้ ถึงแม้จะมีงานให้ทำก็ต้องหลบซ่อนจากเจ้าหน้าที่ ขาดอิสรภาพ ได้ค่าตอบแทนรายวัน หากวันใดไม่มีการจ้างงานก็จะขาดรายได้ไปเลย ซึ่งทำให้แรงงานไทยกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับรายได้ตามที่คาดหวังไว้ และอาจถูกลอยแพโดยปล่อยให้เผชิญชะตากรรมในประเทศมาเลเซียเองโดยไม่เหลียวแลหากถูกจับกุม
ซึ่งที่ผ่านมา มีคนไทยจำนวนมากที่ถูกจับกุมได้ บางรายอาจถูกส่งกลับ และบางรายจะถูกตั้งข้อหาหลบหนีเข้ามืองอย่างผิดกฎหมาย ส่วนอีกกรณีคือ การปลอมแปลงเอกสารวีซ่าเข้าทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยกลุ่มนายหน้าหลอกว่า สามารถดำเนินการขอวีซ่าเข้าทำงานในประเทศมาเลเซียได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000-20,000 บาท และจะมีการหักค่านายหน้า จากเงินค่าจ้างที่ลูกจ้างจะได้รับด้วย ซึ่งในกรณีนี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะหากถูกจับกุมจะถูกต้องข้อหาในคดีอาญาโทษฐานลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งเป็นคดีที่มีโทษหนักมาก
ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนายหน้าที่ถูกกฎหมาย ตำแหน่งงานว่าง ค่าตอบแทน และสวัสดิการที่จะได้รับ ซึ่งอาจรวมไปถึงการต่อรองให้มีการปรับค่าแรงเพิ่มขึ้นจากมาตรฐานวิชาชีพที่แรงงานไทยมีอยู่
ทั้งนี้ กงสุลประจำสถานกงสุลใหญ่ยืนยัน ขั้นตอนวิธีการที่จะทำให้สามารถเข้าไปทำงานอย่างถูกกฎหมาย เสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเสี่ยงเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายภายใต้การดำเนินการของกลุ่มนายหน้าเถื่อน เพราะกฎหมายของประเทศมาเลเซียมีการบังคับใช้ที่เข้มงวดมาก
วันนี้ (27 พ.ค.) นายเปายี แวสาแม กงสุลประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ห่วงปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานมาเลเซียที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลมาเลเซียจะมีการปราบปรามอย่างหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา โดยพบว่า กลุ่มนายหน้าเถื่อนจะใช้กลอุบายในการชักจูงให้คนไทยหลงเชื่อว่า การเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียจะได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่าในประเทศไทย แม้จะลักลอบเข้าไปอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มของแรงงานจากภาคเหนือ และภาคอีสาน เป็นกลุ่มแรงงานส่วนใหญ่ที่ถูกหลอกเข้าไปขายแรงงานผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซีย และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับลักษณะงานหลังกลุ่มแรงงานไทยถูกหลอกเข้าไปในประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย จะเป็นงานกรรมกรก่อสร้าง และขายแรงงานในโรงงานขนาดเล็ก โดยจะให้ไปพักรวมกันในบ้านพัก หรือสถานที่ที่จัดไว้ให้ ถึงแม้จะมีงานให้ทำก็ต้องหลบซ่อนจากเจ้าหน้าที่ ขาดอิสรภาพ ได้ค่าตอบแทนรายวัน หากวันใดไม่มีการจ้างงานก็จะขาดรายได้ไปเลย ซึ่งทำให้แรงงานไทยกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับรายได้ตามที่คาดหวังไว้ และอาจถูกลอยแพโดยปล่อยให้เผชิญชะตากรรมในประเทศมาเลเซียเองโดยไม่เหลียวแลหากถูกจับกุม
ซึ่งที่ผ่านมา มีคนไทยจำนวนมากที่ถูกจับกุมได้ บางรายอาจถูกส่งกลับ และบางรายจะถูกตั้งข้อหาหลบหนีเข้ามืองอย่างผิดกฎหมาย ส่วนอีกกรณีคือ การปลอมแปลงเอกสารวีซ่าเข้าทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยกลุ่มนายหน้าหลอกว่า สามารถดำเนินการขอวีซ่าเข้าทำงานในประเทศมาเลเซียได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000-20,000 บาท และจะมีการหักค่านายหน้า จากเงินค่าจ้างที่ลูกจ้างจะได้รับด้วย ซึ่งในกรณีนี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะหากถูกจับกุมจะถูกต้องข้อหาในคดีอาญาโทษฐานลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งเป็นคดีที่มีโทษหนักมาก
ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนายหน้าที่ถูกกฎหมาย ตำแหน่งงานว่าง ค่าตอบแทน และสวัสดิการที่จะได้รับ ซึ่งอาจรวมไปถึงการต่อรองให้มีการปรับค่าแรงเพิ่มขึ้นจากมาตรฐานวิชาชีพที่แรงงานไทยมีอยู่
ทั้งนี้ กงสุลประจำสถานกงสุลใหญ่ยืนยัน ขั้นตอนวิธีการที่จะทำให้สามารถเข้าไปทำงานอย่างถูกกฎหมาย เสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเสี่ยงเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายภายใต้การดำเนินการของกลุ่มนายหน้าเถื่อน เพราะกฎหมายของประเทศมาเลเซียมีการบังคับใช้ที่เข้มงวดมาก
