นราธิวาส - ประชาชนไทย-มาเลเซีย ใน 3 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ยังคงใช้ชีวิตตามปกติหลัง คสช.รัฐประหาร เนื่องจากเข้าใจในวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว ด้านผู้ประกอบการปิดร้านเร็วขึ้น หวั่นผิดกฎเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม
วันนี้ (24 พ.ค.) หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ประกาศยึดอำนาจรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ที่ผ่านมา ประชาชนชาวไทย และมาเลเซียที่อยู่ตามแนวชายแดน 3 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส คือ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ และอำเภอแว้ง ยังคงดำเนินชีวิตไปมาหาสู่ร่วมกันกันอย่างปกติ เนื่องจากส่วนใหญ่ต่างเข้าใจสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังให้ความคิดเห็นว่า ทาง คสช. น่าที่จะเข้ายึดอำนาจนานแล้ว เพื่อปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองจะได้ยุติลง แต่ขอให้จัดระบบให้เรียบร้อยก่อน และส่งอำนาจคืนประชาชนโดยเร็ว
โดยที่บริเวณ 2 ฟากฝั่งพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ในพื้นที่ 3 อำเภอ ก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ดังเดิมในการตรวจสอบความเรียบร้อยของกลุ่มบุคคลที่ผ่านมาเข้าออกตามช่องทางข้ามแดน ส่วนทางด้านผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ก็ยังคงเปิดกิจการค้ากันตามปกติ โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะปรับตัวในการเดินทางมาซื้อหาอาหาร และรับประทานอาหารกันที่ร้านเร็วกว่าเดิม ซึ่งทุกคนต่างทราบว่า กิจการต่างๆ จะปิดตามเวลาที่ ทาง คสช.กำหนด คือ 22.00 น.- 05.00 น. เป็นเวลาเคอร์ฟิว ที่ห้ามทุกคนออกจากเคหสถาน ยกเว้นมีกรณีจำเป็นที่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก่อน
วันนี้ (24 พ.ค.) หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ประกาศยึดอำนาจรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 ที่ผ่านมา ประชาชนชาวไทย และมาเลเซียที่อยู่ตามแนวชายแดน 3 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส คือ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ และอำเภอแว้ง ยังคงดำเนินชีวิตไปมาหาสู่ร่วมกันกันอย่างปกติ เนื่องจากส่วนใหญ่ต่างเข้าใจสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังให้ความคิดเห็นว่า ทาง คสช. น่าที่จะเข้ายึดอำนาจนานแล้ว เพื่อปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองจะได้ยุติลง แต่ขอให้จัดระบบให้เรียบร้อยก่อน และส่งอำนาจคืนประชาชนโดยเร็ว
โดยที่บริเวณ 2 ฟากฝั่งพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ในพื้นที่ 3 อำเภอ ก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ดังเดิมในการตรวจสอบความเรียบร้อยของกลุ่มบุคคลที่ผ่านมาเข้าออกตามช่องทางข้ามแดน ส่วนทางด้านผู้ประกอบการ ร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ก็ยังคงเปิดกิจการค้ากันตามปกติ โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะปรับตัวในการเดินทางมาซื้อหาอาหาร และรับประทานอาหารกันที่ร้านเร็วกว่าเดิม ซึ่งทุกคนต่างทราบว่า กิจการต่างๆ จะปิดตามเวลาที่ ทาง คสช.กำหนด คือ 22.00 น.- 05.00 น. เป็นเวลาเคอร์ฟิว ที่ห้ามทุกคนออกจากเคหสถาน ยกเว้นมีกรณีจำเป็นที่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก่อน
