นราธิวาส - นายอำเภอเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ขอให้ประชาชนช่วยเจ้าหน้าที่ดูแล และเฝ้าระวังพื้นที่หลังเกิดเหตุระเบิดหลายจุด ส่วนที่เป็นปัญหาด้านความมั่นคงยืนยันจะรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน ขณะนี้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดแล้ว พร้อมดำเนินการเยียวยาทางจิตใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (20 พ.ค.) นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวภายหลังการเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ว่า เข้าใจและเห็นใจความเดือดร้อนของประชาชน และขณะนี้ในส่วนของการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบก็ได้ดำเนินการมอบเงินเยียวยาให้แก่กรณีการเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บทั้งหมดแล้ว คงเหลือเพียงการเยียวยาด้านทรัพย์สินที่จะมีการสรุปยอดรวมทั้งหมดภายในวันที่ 22 พ.ค.57 นี้ นอกจากนี้ จะพยายามหาแนวทางในการช่วยเหลือในด้านอื่นๆ รวมทั้งการเยียวยาจิตใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบด้วย
ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ได้มีการประชุม และปรับแผนการรักษาความปลอดภัย โดยหาจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย และจุดแข็งของพื้นที่ เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยมีความเข้มงวด และรัดกุมมากขึ้น พร้อมยืนยันทุกประเด็นที่เป็นปัญหาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะนำไปปรับแก้โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ร้านค้า และเคหสถานของตนเอง เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ติดตาม และเฝ้าระวังการเข้ามาก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายอีกทางหนึ่ง เพราะลำพังเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลควบคุมในทุกพื้นที่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากมีการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ได้อีกมากᅠ
ด้านนางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวว่า การป้องกันการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นประชาชนต้องกล้าพูด และนำเสนอปัญหาและข้อบกพร่อง รวมถึงจุดอ่อนต่างๆ ในพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่รับทราบ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาทั้งในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการ ขณะที่ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ประชาชนเองก็ต้องเข้ามามีบทบาทในการร่วมป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่เป็นคู่ขนานไปกับเจ้าหน้าที่ด้วย เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด การพูดคุยกันบ้างในชุมชน หรือตามย่านเศรษฐกิจมีการจับกลุ่มพูดคุยกัน หมั่นสังเกตพฤติกรรมของผู้ที่สัญจรในพื้นที่ว่ามีอะไรผิดสังเกตหรือไม่ หากพบต้องรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที และเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ด้วย เพราะเสียงที่สะท้อนจากชาวบ้านพบว่า เมื่อมีเหตุแล้วกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจสอบพื้นที่ช้ามาก ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาที่เจ้าหน้าที่ต้องรับไปดำเนินการแก้ไขด้วย