นราธิวาส - เปิดเรียนวันแรกของ 2 โรงเรียนที่ถูกเผาในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี เปิดทำการสอนได้เพียงโรงเรียนบ้านโคกตา ส่วนโรงเรียนอิสลามบำรุง ยังไม่พร้อม เร่งนำเต็นท์มากางเป็นห้องเรียนชั่วคราว ด้าน ผอ. สนง.เขตพื้นที่การประถมศึกษาเขต 2 เผยรออนุมัติงบก่อสร้างอาคาร
ความคืบหน้ากรณีโรงเรียนบ้านโคกตา และโรงเรียนอิสลามบำรุง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงได้รับความเสียหาย เหตุเกิดในช่วงคืนของวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้โรงเรียนไม่สามารถเปิดเทอมได้ในวันที่ 16 พ.ค.57 ล่าสุด โรงเรียนทั้ง 2 แห่งได้เปิดเทอมวันแรกในวันนี้ (19 พ.ค.) ซึ่งโรงเรียนบ้านโคกตา ทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมในทุกด้านแล้ว และไม่มีปัญหาใดๆ ในวันนี้
ส่วนโรงเรียนอิสลามบำรุงนั้น เปิดเทอมในวันนี้ แต่ไม่สามารถที่จะทำการเรียนการสอนได้ เนื่องจากสื่อการเรียนการสอน ห้องครัวสำหรับปรุงอาหารกลางวันให้เด็กรับประทาน รวมไปถึงถังน้ำดื่มถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายหมด ทางโรงเรียนจึงยังไม่มีความพร้อมที่จะเปิดการเรียนการสอนได้ เนื่องจากเหลือเพียงอาคารเดียว ซึ่งทางโรงเรียนแก้ปัญหาที่จะเปิดการเรียนการสอนอย่างสมบูรณ์แบบ คือ ได้นำเต็นท์มากางที่ในสนามใช้ทำเป็นห้องเรียนชั่วคราว
ในส่วนของอาหาร และน้ำดื่มทางโรงเรียนจะให้นักเรียนนำมาจากบ้าน เพื่อใช้รับประทานเป็นการชั่วคราว ก่อนที่ทางโรงเรียนจะจัดมาให้นักเรียนได้
โดยนางฉลอง สุเมธาวิวัฒน์ รักษาราชการแทน ผอ.โรงเรียนอิสลามบำรุง กล่าวว่า สำหรับการเปิดเทอมวันแรกในวันนี้ ทางโรงเรียนขาดสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอนที่เราเตรียมไว้ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายหมด ซึ่งทาง สนง.เขตพื้นที่การประถมศึกษา เขต 2 ก็ได้จัดซื้อโต๊ะเก้าอี้ ส่วนหนึ่งมาให้แก่ทางโรงเรียน เพื่อใช้แทนของเก่าที่ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งในช่วงอาทิตย์นี้ก็คงให้นักเรียนมาโรงเรียนกันตามปกติ โดยนักเรียนส่วนหนึ่งจะช่วยครูทำการเก็บกวาด และเตรียมชั้นเรียนชั่วคราวให้สำหรับนักเรียนรุ่นน้อง
ด้าน ด.ญ.แวโซเฟียร์ มะยีแต นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนอิสลามบำรุง กล่าวว่า หนูไปสร้างความเดือดร้อนอะไรจึงมาเผาโรงเรียนหนู ทำให้เด็กต้องไร้การศึกษา
ด้าน นายธวัช แซ่อ่ำ ผอ.สนง.เขตพื้นที่การประถมศึกษาเขต 2 ได้เปิดเผยหลังจากเดินทางมาดูความพร้อมในการเปิดเทอมว่า ล่าสุด ทางสำนักงานเขตฯ ได้จัดเสนองบประมาณสร้างอาคารเรียนห้องใหม่ ขนาด 3 ชั้น ทดแทนอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งขณะนี้รอการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา แต่ถ้าขาดเหลือทางตนจะเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสืออย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย