ปัตตานี - แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำหน่วยกำลังในพื้นที่ ให้เพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย มีการวางแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วย และรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของหน่วยภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร ในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.มนตรี กำแพงเศรษฐ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ร่วมประชุมรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของหน่วย ประกอบด้วย หน่วยในพื้นที่ ดังนี้ หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย, ศูนย์แพทย์ทหารบกจังหวัดชายแดนภาคใต้, ศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริ รวมทั้งรับฟังการบรรยายสรุประบบเฝ้าตรวจทางอากาศ และความคืบหน้าการซ่อมบำรุงเรือเหาะ จากนายทหารเฝ้าตรวจการณ์ด้วย
สำหรับการลงพื้นที่ของแม่ทัพภาคที่ 4 ในครั้งนี้ ได้มีการเน้นย้ำและกำชับในเรื่องของการเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยให้หน่วยในพื้นที่มีการวางแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะเน้นในเรื่องยุทธศาสตร์เชิงรุก จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทั้งนี้ เพื่อความปลอดในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังห้องสมุดศูนย์ครูใต้ และฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านน้ำดำ ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองหนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเข้าร่วมประชุมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน ความทุกข์ยาก และความต้องการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตลอดจนการมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหา โดยมีผู้แทนหัวหน้ากองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ชี้แจงเกี่ยวกับผลงานของราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) รวมถึงปัญหาของความทุกข์ยาก และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เป็นประธานร่วมในพิธีมอบบ้านดิน ให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองโคกโพธิ์มิตรภาพที่ 148 และยังได้มอบทุนการศึกษาให้แก่ตัวแทนเด็กนักเรียนจากโรงเรียนบ้านน้ำดำ ที่มีความประพฤติดี เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเด็กนักเรียน และผู้ปกครองที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนเดินทางกลับ
พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ได้มีการเน้นย้ำ และกำชับในเรื่องของการเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยให้หน่วยในพื้นที่มีการวางแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะเน้นในเรื่องยุทธศาสตร์เชิงรุก จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ทั้งนี้ เพื่อความปลอดในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่