ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สาวแสบตระเวนขโมยครีมกันแดดจากร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ป่าตอง กว่า 10 ครั้ง พบมีออเดอร์ส่งขายลูกค้าตามชายหาด ก่อนถูกจับวันเดียวเข้าไปก่อเหตุที่ร้านแฟมมิลี่มาร์ท ซอยนาใน 3 ร้าน ผู้จัดการร้านเอะใจพบท่าทีผิดสังเกตแจ้งตำรวจตรวจสอบขณะกำลังขับ จยย.หลบหนี แต่ดวงซวยไปชนฝรั่งทำ จยย.ล้ม ครีมกันแดดตกกระจาย ส่วนเจ้าตัววิ่งหนีเข้าป่าแต่ไม่พ้นมือ ตร.กะทู้
พ.ต.ต.สุทธิชัย เทียนโพธิ์ สว.สส.สภ.กะทู้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากร้านสะดวกซื้อต่างๆ ในพื้นที่ว่า คนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุขโมยครีมกันแดดจากร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ป่าตองหลายแห่ง เจ้าหน้าตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.กะทู้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ออกสืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี จนกระทั้งล่าสุด เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้จัดการร้านแฟมมิลี่มาร์ท ซอยนาใน ต.ป่าตอง ว่า มีคนร้ายขโมยครีมกันแดดออกจากร้านไปจำนวนมาก ขอให้ติดตามจับกุมด้วย โดยคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีเขียว หมายเลขทะเบียน ขฉฉ 302 ภูเก็ต หลบหนีไปทางถนนผังเมืองสาย ก.
หลังรับแจ้งตนจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกติดตามเพื่อจับกุมคนร้าย โดยคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านไปทางหน้าสถานีตำรวจภูธรกะทู้ จึงได้ออกติดตาม และระหว่างนั้นรถที่คนร้ายใช้ขับเพื่อหลบหนีได้ไปชนกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจนทำให้รถล้ม กระเป๋าสะพายที่คนร้ายถืออยู่ตกลงบนพื้น ทำให้ครีมกันแดดที่ซุกซ่อนไว้ตกกระจายบนถนน ส่วนตัวคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ากล้วยด้านหลังสถานีตำรวจภูธรกะทู้ เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งไล่จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด และนำตัวมาสอบสวนขยายผล และไปตรวจค้นห้องพักในพื้นที่ฉลอง ซึ่งจากการตรวจสอบห้องพักพบครีมกันแดด รวมทั้งใบสั่งของจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดมาเป็นของกลาง ประกอบด้วยครีมกันแดด 20 ขวด รถจักรยานยนต์ ใบรายการสั่งซื้อครีมกันแดด จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทราบชื่อคือ น.ส.ดาวเรือง บุดดา อายุ 31 ปี ชาว อ.นาทม จ.นครพนม
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนที่จะถูกจับกุมคนร้ายได้ขับรถตระเวนไปตามร้านแฟมิลี่มาร์ท ถนนนาใน และลงมือขโมยครีมกันแดด จำนวน 3 ร้าน โดยหนึ่งในนั้นทางผู้จัดการร้านเห็นพฤติกรรมผิดสังเกตจึงได้เข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์ที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบว่าหญิงสาวรายดังกล่าวมีพฤติกรรมขโมยครีมกันแดดจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจับกุม และจากการสอบสวนพบว่า คนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเข้าไปก่อเหตุตามร้านสะดวกซื้อ โดยสินค้าที่ได้มาแล้วจะนำไปส่งต่อให้แก่ลูกค้าตามชายหาดต่างๆ ที่มีการสั่งซื้อเข้ามา ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว 3-4 ครั้ง
