ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นศ.หลักสูตรปฏิบัติการจิตวิทยาฯ จัดค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน “คนรุ่นใหม่หัวใจรักแผ่นดิน” ดึงเยาวชนจากจังหวัดชายแดนทั่วประเทศเข้าร่วม
วานนี้ (12 พ.ค.) นายสู่บุญ วุฒิวงศ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 8 เป็นประธานเปิดโครงการค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน “คนรุ่นใหม่หัวใจรักแผ่นดิน” รุ่นที่ 2 ซึ่งคณะศึกษาหลักสูตรปฏิบัติการจิตวิทยา ฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ 111 (สจว.111) สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมกับสมาคมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในพระบรมราชูปถัมภ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ มูลนิธิสถาบันศึกษา และพัฒนาการจัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี มูลนิธิฟรีดริช เนามัน ประเทศไทย และมูลนิธิหมอ 19 บาท จัดขึ้น โดยมีนายไพโรจน์ นวานุช อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัว ผู้พิพากษาสมทบ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เยาวชน ครู และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-17 พฤษภาคมนี้
นายนิติธร วงศ์ยืน ประธานนักศึกษา สจว.111 กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่า สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมืองทำให้ประชาชนมีความคิดเห็นที่แตกต่าง บางครั้งเกิดความขัดแย้งทางความคิด แตกความสามัคคีกันในชาติทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศในแนวจังหวัดชายแดนยังส่งผลให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างหวาดระแวงไม่เป็นสุข ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ติดตามมายิ่งขึ้น ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ส่งผลถึงพฤติกรรมของพลเมืองที่ดำรงชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ เพิกเฉยต่อหลักการมีส่วนร่วม จนบางครั้งความขัดแย้งลุกลามถึงขนาดนำไปสู่การใช้กำลังแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ สภาพปัญหาดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นย่อมกระทบต่อวิถีชีวิตของเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติให้ได้รับพฤติกรรมเลียนแบบอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเยาวชนจำนวนมากขาดการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสมานฉันท์ ท่ามกลางความแตกต่างทางความคิด รู้จักสิทธิของตนแต่อาจบกพร่องในหน้าที่ หรือหลงลืมการเคารพในสิทธิของผู้อื่น ทั้งส่วนหนึ่งยังหลงกระทำความผิดหันไปพึ่งพายาเสพติด และมั่วสุมในแหล่งอบายมุขต่างๆ เป็นช่องทางให้เกิดมิจฉาชีพ และกลายเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีชักจูงไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิดได้โดยง่าย
สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย จึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดทำโครงการค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน “คนรุ่นใหม่หัวใจรักแผ่นดิน” รุ่นที่ 1 ขึ้น เมื่อวันที่ 5-12 พฤษภาคม 2556 ณ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนมัธยมจากภูมิภาคต่างๆ 6 ภูมิภาค คัดเลือกนักเรียนอายุ 15-18 ปี เข้าร่วมโครงการภูมิภาคละ 6 คน รวมทั้งสิ้น 36 คน และครูพี่เลี้ยงอีกภูมิภาคละ 1 คน รวม 6 คน มีสถานที่จัดกิจกรรม ณ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดภูเก็ต ส่วนในรุ่นที่ 2 มีเยาวชนจากจังหวัดชายแดนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ภาคละ 8 คน จำนวน 6 ภาค รวม 48 คน และครูพี่เลี้ยงภาคละ 2 คน รวม 12 คน รวมทั้งทั้ง 60 คน เข้าร่วม
“ทั้งนี้ เพื่อผนึกกำลังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และสถาบันจิตวิทยาความมั่นคงกับหน่วยงานภายนอก ในการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติว่าด้วยการปลูกฝังความคิด และหล่อหลอมให้เยาวชนคนไทยจากจังหวัดชายแดนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ได้มีโอกาสมาอยู่ร่วมกันโดยสันติท่ามกลางความแตกต่างในเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ และเรียนรู้ร่วมกันผ่านกระบวนการทำกิจกรรม และการศึกษาดูงานที่เป็นประโยชน์ โดยเน้นการปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนเล็งเห็นคุณค่าของความรักความสามัคคีกันในชาติ การมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม และการสร้างสรรค์กิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม เป็นการสร้างทุนทางปัญญาให้แก่เยาวชน ซึ่งสามารถนำความรู้ ประสบการณ์และทัศนคติที่ได้รับจากโครงการไปปรับใช้ในชีวิตจริง และการประกอบอาชีพ อันจะก่อให้เกิดแนวความคิด และทัศนคติที่ดีในการพัฒนาท้องถิ่นของตน เกิดความรู้รักสามัคคี และมีเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาสังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน” นายนิธิธรกล่าว
ด้าน นายสู่บุญ วุฒิวงศ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 8 กล่าวกับเยาวชนและผู้ร่วมโครงการฯ ว่า เป็นที่ประจักษ์ดีว่า เยาวชน คนรุ่นใหม่ จะเป็นพลังขับเคลื่อนอนาคตของประเทศชาติ ดังนั้น การจัดโครงการดังกล่าวขึ้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่เยาวชนผู้ร่วมโครงการจะได้รับความรู้ ประสบการณ์ หล่อหลอมให้เกิดซาบซึ้ง รัก และหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รัก รวมทั้งจะได้รับความรู้ ความเข้าใจต่อสถานการณ์สังคมไทย การเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประสบการณ์ตรงจากการเข้าร่วมกิจกรรม และใช้ชีวิตร่วมกัน นำไปสู่การตกผลึกเป็นแผนงานโครงการเพื่อสร้างสรรค์สังคมสมานฉันท์