นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาส จัดงาน บิ๊กไบค์-ออฟโรด เชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ คาดว่าจะมีรายได้เข้าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เผยยังเชื่อมั่นมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางการไทย
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นราธิวาส มีการจัดแถลงข่าวการจัดงาน บิ๊กไบค์-ออฟโรด ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-มาเลเซีย โดยสำนักงานการท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการจังหวัดนราธิวาส ชมรมออฟโรด รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ชมรมบิ๊กไบค์นราธิวาส และหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดนราธิวาส ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนชาวไทย และมาเลเซีย ที่จะขยายผลไปสู่การหมุนเวียนของเงินรายได้ไปสู่ชุมชนในพื้นที่ได้ โดยกิจกรรมนี้มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-18 พ.ค.ที่จะถึงนี้ โดยใช้พื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส และ อ.ศรีสาคร เป็นสถานที่จัดงาน
สำหรับงานแถลงข่าวในวันนี้ มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวไทยนำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์และรถยนต์ออฟโรด ทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และร่วมทำกิจกรรมตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทำหน้าที่อำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งปีนี้จะมีรถบิ๊กไบค์ทั้งของชาวไทย และมาเลเซีย จำนวนร่วม 1,000 คัน ส่วนรถออฟโรด จำนวนกว่า 200 คัน เดินทางมาร่วมงาน
นายอัชฮารี ฮากรูน ประธานชมรมออฟโรด รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ยืนยันว่าถึงแม้จะเพิ่งเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่สมาชิกของชมรมส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในมาตรการการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานความมั่นคงของประเทศไทย ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่
ด้านนายสว่าง ศรีชัย ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส เชื่อว่า การจัดงานในครั้งนี้จะมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกระจายเข้าสู่ในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
