ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต หนุนเกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ไรซ์เบอรีในผืนนาแปลงสุดท้ายของภูเก็ต หวังเพิ่มผลผลิต และมูลค่าให้สูงขึ้น
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (6 พ.ค.) ที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต นายสมพงศ์ แป้นทอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายชาลี สิตบุศย์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายวิสุทธิ์ มณีส่ง ตัวแทน ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรภูเก็ต นายสมิทธิ์ วิพุธภูมิ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดภูเก็ต นายสมหมาย สกุลชิด ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่เกษตรกร เพื่อเตรียมเกษตรกรไทยเริ่มต้นใหม่ฤดูกาลผลิตของจังหวัด ในโอกาสวันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยมีสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
นายสมพงศ์ แป้นทอง เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตสินค้าเกษตร ประจำปี 2557 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แบ่งกลุ่มสินค้าที่สำคัญออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อส่งเสริมการผลิตและเฝ้าระวังในการผลิต เพื่อสื่อสารไปยังเกษตรกร ประกอบด้วย สินค้าที่มีอนาคตสดใส และเห็นควรส่งเสริมการผลิต ได้แก่ ไก่เนื้อ สินค้าเกษตรที่เฝ้าระวัง ได้แก่ สินค้ากุ้ง ปาล์มน้ำมัน และข้าว และสินค้าเกษตรที่น่าเป็นห่วง คือ ยางพารา โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีสินค้าที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง และน่าเป็นห่วงรวมอยู่ด้วย ได้แก่ กุ้ง ปาล์มน้ำมัน ข้าว และยางพารา
โดยในส่วนของสินค้าข้าว จังหวัดภูเก็ตมีพื้นที่ปลูกข้าวอยู่ที่หมู่ที่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวน 61 ไร่ เกษตกร 18 ราย ถือเป็นนาแปลงสุดท้ายของจังหวัดภูเก็ต โดยเกษตรกรที่นี่จะปลูกข้าวเพื่อใช้บริโภคภายในครัวเรือน และทำนาเป็นเชิงวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกร ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา มีผลผลิต 48 ตัน เพียงพอสำหรับการบริโภคภายในครัวเรือนเท่านั้น
นายสมพงศ์ กล่าวเพิ่มว่า ด้านการบริหารจัดการผลิตข้าว เกษตรกรมีการรวมกลุ่มทำนา มีการจัดตั้งโรงสีชุมชน มีเกษตกรผู้นำที่มีความชำนาญ สามารถถ่ายทอดความรู้ และเป็นแบบอย่างให้แก่เกษตกรรายอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีแหล่งวิชาการในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรภูเก็ต สำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอ วิธีการผลิตและนำวิธีการนาโยนมาใช้เพื่อประหยัดเวลาและแรงงาน เป็นการลดต้นทุนการผลิต และทางจังหวัดภูเก็ต มีแนวคิดที่จะนำข้าวพันธุ์ใหม่ คือ ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอรี ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม ผสมพันธุ์ขึ้นระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล กับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ลักษณะเด่นของข้าวหอมนิล คือ มีธาตุเหล็กสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ 30 เท่า มีโปรตีนสูงกว่าข้าวขาวดอกมะลิ 105 ถึง 2 เท่า และมีลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งของข้าวพันธุ์นี้ คือ มีคุณภาพดี นุ่ม หอม อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
โดยจะมีการนำข้าวพันธุ์ไรซ์เบอรีมาให้เกษตรกรในภูเก็ตปลูกในฤดูกาลผลิตปีนี้ ซึ่งจะเริ่มดำในเดือนสิงหาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนธันวาคม หรือปลูกวันแม่เก็บเกี่ยววันพ่อ ซึ่งจากการหารือร่วมกับเกษตรกรที่ไม้ขาวมีเกษตรกรสนใจปลูกแล้วประมาณ 50% เนืองจากข้าวพันธุ์ไรซ์เบอรีจะให้ผลิตต่อไร่สูง ราคาสูงกว่าข้าวทั่วไป
ด้านนายสมิทธิ์ วิพุธภูมิ ผอ.ธ.ก.ส.ภูเก็ต กล่าวว่า ธ.ก.ส.มีเงินสินเชื่อที่จะให้บริการเกษตรกรในภูเก็ตในปี 2557 นี้ จำนวน 650 ล้านบาท ซึ่งเกษตรกรสามารถที่จะกู้เพื่อนำไปเป็นทุนในการผลิตสินค้าการเกษตร และอื่นๆ ซึ่งในขณะนี้พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่จะกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 10 ต่อเดือน มากกว่าที่กู้กับทาง ธ.ก.ส.ที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5-10.5 ต่อปี และมีเงื่อนไขการผ่อนปรนอีกมากมาย จึงอยากให้เกษตรกรเข้ามากู้เงินกับ ธ.ก.ส.มากกว่ากู้นอกระบบ
ขณะที่ นายชาลี สิตบุศย์ นักวิชการเกษตรชำนาญการพิเศษ สำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันการผลิตข้าวในภูเก็ตมีพื้นที่อยู่ 61 ไร่ ที่ตำบลไม้ขาวเท่านั้น ส่วนพื้นที่อื่นๆได้แปรสภาพเป็นพื้นที่ในเชิงธุรกิจไปหมดแล้ว และโอกาสที่จะเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวคงจะเป็นไปได้ยาก สิ่งที่ทำได้คือ การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น รวมทั้งการนำผลผลิตที่ได้มาแปรรูปให้มีมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในเชิงเกษตรในผืนหน้าสุดท้ายของภูเก็ต แต่การส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นจะต้องเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในส่วนอื่นด้วย เช่น จับจักจั่นทะเล เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตได้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดีในระดับหนึ่ง
