ยะลา - ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยพุทธ กว่า 1,000 คน ร่วมงานสมโภชแห่พระ-ลุยไฟ ประจำปี 57 ณ วัดเห้งเจีย ต.สะเตงนอก มีการอัญเชิญองค์เทพเจ้าประทับบนเกี้ยว พร้อมแห่รอบเมืองยะลา ปล่อยชีวิตสัตว์ และพิธีก่อกองไฟ ลุยไฟ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีมหรสพอื่นๆ ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ที่ศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา หรือวัดเห้งเจีย ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมอัญเชิญองค์หยู่ไหล่ฮุกโจ้ว (พระพุทธ) ประทับบนเกี้ยว พร้อมกับนายยู่สิน จินตภากร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา โดยมีนายประดิษฐ์ รัตตัญญู ประธานศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา และคณะกรรมการศาลเจ้าฯ ร่วมอัญเชิญองค์เทพเจ้า จำนวน 37 เกี้ยว ภายในงานสมโภชแห่พระ-ลุยไฟ ประจำปี 2557 ท่ามกลางบรรยากาศคนไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยพุทธร่วมชมงานเป็นจำนวนกว่า 1,000 คน
หลังจากนั้น เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ได้ร่วมกันอัญเชิญองค์พระขึ้นประทับบนรถแห่ โดยในวันนี้ (17 เม.ย.) ตั้งแต่เวลา 08.49 น. จะมีพิธีเปิดประตูศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ โดยให้เกี้ยวของอึ่งไบ้ฮุกโจ้ว ออกจากศาลเจ้าเป็นองค์แรก และองค์พระอื่นๆ ทยอยออกตามมาร่วมขบวนแห่รอบเมืองยะลา ซึ่งในช่วงบ่ายจะมีการประกอบพิธีปั้งแซ คือ การปล่อยชีวิตสัตว์ และจะมีพิธีก่อกองไฟ
จากนั้นในเวลา 18.00-20.00 น. จะมีพิธีลุยไฟขององค์พระต่างๆ โดยหลังจากที่ร่างทรงได้ลงประทับทรงทำพิธีตัดยอดไฟเพื่อเปิดทางให้ลุยไฟแล้ว จะให้องค์พระตี่บ้อเนี่ย (พระแม่ธรณี) เป็นองค์แรกที่ลุยไฟ ตามด้วยองค์ไต่เสี่ยฮุกโจ้ว เป็นองค์ที่สอง ตามด้วยองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ สี่ไต่เทียนอ้วง ทั้ง 4 องค์ และองค์พระอื่นๆ ของศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลาทั้งหมด หลังจากนั้นจะเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาทั่วไปเข้าร่วมพิธีลุยไฟด้วย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีมหรสพมากมาย เช่น การแสดงมโนราห์ ภาพยนตร์กลางแปลง และการแสดงคณะสิงโต จากศาลเจ้าเค่งฮุดจี่ยะลา คณะชุดวัฒนธรรมจีน (ฉื่อเซี่ยงตึ้งยะลา) ชมรมไท้เก๊กยะลา โดยได้รับความสนใจมีผู้คนเข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือ การทำนุบำรุง และส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนในทุกศาสนาได้ปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา เริ่มจากข้าราชการต้องปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชน โดยในวันสำคัญทางศาสนา หรือวันพระ ผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ จะต้องเดินทางเข้าวัด ส่วนผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ให้เดินทางไปละหมาดในมัสยิดทุกๆ วันศุกร์ และพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่น ก็อยากจะให้มีการจัดกิจกรรมร่วมกัน โดยให้ถือว่าเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ โอกาสของทุกท่านในการที่จะมาช่วยพัฒนาพื้นที่ในทุกๆ ด้าน
