นราธิวาส - ฝ่ายความมั่นคงนราธิวาส ร่วมสนธิกำลัง 6 ชุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัย RKK แฝงตัวเตรียมก่อเหตุ ด้านคนร้ายไหวตัวทันใช้ปืนยิงตอบโต้ประมาณ 5 นาที ก่อนถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 1 ราย เบื้องต้นจากประวัติคนร้ายเป็นผู้ก่อเหตุวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง 4 จุด
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. น.ท.อมร ควรหาเวช ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บาเจาะ และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมสนธิกำลัง จำนวน 6 ชุดปฏิบัติการ ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านต้องสงสัย เลขที่ 84/2 บ้านบือเระ ม.1 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ RKK จำนวนหนึ่งแฝงตัวเคลื่อนไหวเตรียมประชุมก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ เมื่อถึงเป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อม และได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ทันใดนั้นได้มีชายฉกรรจ์ที่อยู่ในบ้านพักได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นาน 5 นาที คนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเบิกทาง และหลบหนีออกจากบ้านพัก โดยมุ่งหน้าเข้าไปในป่าสวนยางพารา และเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่อีกระลอกหนึ่ง โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย
เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลียร์พื้นที่ซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร พบว่ามีคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย โดยสวมเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้า ใส่กางเกงวอร์มขายาวสีดำ ที่เอวเหน็บซองกระสุนปืนพกสั้นไว้ 1 ซอง และมีกระเป๋าคาดไว้ที่เอว 1 ใบ โดยข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เมื่อตรวจสอบทราบชื่อคือ นายอาหะมะ หรือมามะ ยามา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.7 ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งมีบาดแผลถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ที่บริเวณหน้าอก และลำตัวจำนวนหลายนัด
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ตายเคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 พ.ย.48 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีสมาชิกแนวร่วมที่ถูกจับกุมซัดทอดว่า ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง 4 จุด ในพื้นที่ ม.10 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเหตุครั้งนั้นเกิดความผิดพลาดทำให้ นายอิสมาแอ อาแซ 1 ในสมาชิกที่ร่วมก่อเหตุถูกระเบิดของตัวเองที่นำไปวางเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวในครั้งนั้น ภายหลังให้การรับสารภาพว่าเป็นสมาชิกแนวร่วม และผ่านการฝึก RKK จริง แต่ไม่เคยก่อเหตุรุนแรง แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่พบว่า นายอาหะมะ หรือมามะ มีพฤติกรรมเข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมอย่างเต็มตัว จึงได้ติดตามจับกุม และถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญในที่สุด