พัทลุง - เกิดเหตุ 2 คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งบุกยิงเสี่ยใหญ่ค้าไม้ยางเมืองลุงดับคาสวนยาพารา ก่อนขับ จยย.หลบหนีลอยนวล ด้านเจ้าหน้าที่คาดขัดแย้งธุรกิจรับซื้อไม้ยางในท้องถิ่น เผยผู้ตายเคยขับรถไปชนผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคู่กรณีได้เรียกค่าเสียหายถึง 800,000 บาท แต่ผู้ตายได้ขอเจรจาต่อรอง
วันนี้ (15 เม.ย.) เวลาประมาณ 15.30 น. ผู้สื่อข่าวจากจังหวัดพัทลุงว่า ร.ต.ท.อรรถพล สายทองแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.โคกชะงาย อ.เมือง จ.พัทลุง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุยิงกันเสียชีวิต 1 ศพ โดยเหตุเกิดในสวนยางพาราท้องที่ ม.1 ต.โคกชะงาย อ.เมือง จ.พัทลุง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรศักดิ์ รมยานนท์ผบก.ภ.จว.พัทลุง นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล และร่วมชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ
พบศพ นายณรงค์ แสงแก้ว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196/1 ม.9 ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ข้างเครื่องเลื่อยยนต์ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. และอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าที่บริเวณแผ่นหลัง ศีรษะ ท้ายทอย ลำตัว ชายโครงด้านขวา จำนวน 8 นัด ในที่เกิดเหตุตำรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ 5 ปลอก หัวกระสุนปืน 9 มม. 2 หัว หมอนรองกระสุนปืนลูกซอง 1 อัน จึงนำไปเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับซื้อไม้ยางพารารายใหญ่ในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนเกิดเหตุนายณรงค์ (ผู้ตาย) พร้อมด้วยนายเคลื่อน ขวัญแก้ว อายุ 56 ปี ราษฎรในหมู่บ้านเดียวกัน ได้ขับรถยนต์กระบะเข้ามารับซื้อไม้ยางพาราในท้องที่ ม.1 ต.โคกชะงาย อ.เมือง จ.พัทลุง ในขณะที่ผู้ตายกำลังตัดโค่นตันยางพาราอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 2 คน มีหมวกไหมพรมคลุมหน้าทั้ง 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาในสวนยางพาราและได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ตาย 2 นาที จากนั้นคนร้าย 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายในระยะเผาขนจนเสียชีวิต และขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างลอยนวล
ทางด้าน พล.ต.ต.สุรศักดิ์ รมยานนท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า สำหรับประเด็นการสังหารโหดครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าประเด็นสังหารน่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และความขัดแย้งธุรกิจการรับซื้อไม้ยางพารา สำหรับความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวนั้นน่าจะมาจากสาเหตุที่ผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะไปชนผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคู่กรณีได้เรียกค่าเสียหายถึง 800,000 บาท แต่ผู้ตายได้ขอเจรจาต่อรองราคาให้ต่ำกว่าการร้องขอของคู่กรณี ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาซึ่งจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการสังหารโหดในครั้งนี้ต่อไป
