ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นกลางเมืองหาดใหญ่ เมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติคลุ้มคลั่งบุกทำลายข้าวของร้านจำหน่ายส้มโชกุน และใช้ขวดไวน์ฟาดเป็นปากฉลามปากคอตัวเองอย่างสยดสยองอาการสาหัส เจ้าหน้าที่คาดเมายา
วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม รุ่งรัตน์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุนักท่องเที่ยวต่างชาติคลุ้มคลั่งทำลายทรัพย์สินชาวบ้าน และทำร้ายตัวเองที่ร้านจำหน่ายส้มโชกุนเบตง เลขที่ 58/18 ถ.ละม้ายสงเคราะห์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่
จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่งตึ้งหาดใหญ่ไปตรวจสอบ และช่วยเหลือ พบชายชาวต่างชาติยังไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 25-30 ปี ลักษณะเหมือนชาวมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในการคล้ายคนเมายา และคลุ้มคลั่ง บุกเข้าไปภายในร้านจำหน่ายส้มโชกุนเบตง และใช้เหล็กสำหรับดึงประตูเหล็กม้วน ทำลายข้าวของภายในบ้าน และเปิดตูตู้เย็นหยิบเอาขวดไวน์มาฟาดจนแตกเป็นปากฉลาม และปาดคอตัวเองหลายครั้งอย่างสยดสยองเลือดทะลัก และล้มลงกองกับพื้นชักดิ้นด้วยความเจ็บปวด
ทางหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ นับสิบคนพยายามเข้าช่วยโดยการใช้ผ้ามัดที่บริเวณลำคอซึ่งเป็นแผลฉกรรจ์ 2 แผลเพื่อห้ามเลือด แต่เป็นไปอย่างลำบากเนื่องจากชายคนดังกล่าวพยายามดิ้นขัดขืนตลอดเวลา ทั้งจากความเจ็บปวด และอาการคลุ้มคลั่ง หน่วยกู้ภัยต้องใช้ความพยายามไม่ต่ำกว่า 10 นาที จึงช่วยเหลือเอาไว้ได้โดยใช้เชือกมัดมือขณะที่ชายคนดังกล่าวตาเริ่มค้าง และหมดแรง และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เนื่องจากอาการสาหัสเพราะเสียเลือดมาก
จากการสอบสวน นางทองนวล แก้วเทศ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุกำลังอยู่ในครัวหลังบ้าน และได้ยินเสียงดังโครมครามมาจากหน้าบ้าน จึงออกมาดูและพบชายคนดังกล่าวกำลังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของ ตนจึงรีบวิ่งหนีออกมานอกบ้าน โดยที่บนชั้น 2 ของบ้านยังมีลูกสาวอยู่อีก 2 คน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะใช้ขวดปากฉลามปาดเข้าที่คอของตัวเองจนล้มลง และเลือดไหลทะลักนองพื้น เพื่อนบ้านจึงรีบแจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ
ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นชายคนดังกล่าวเดินออกมาจากในซอยแถวโรงแรมไดอิชิ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ และขอช้อนส้อมจากบ้านของชาวบ้านแต่ไม่มีใครให้ จึงเดินตรงเข้าไปภายในร้านขายส้มโชกุน และก่อเหตุทำลายข้าวของรวมทั้งทำร้ายตัวเอง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่า ชายชาวต่างชาติรายนี้เป็นใคร เนื่องจากไม่พบหลักฐานใดๆ ในตัว แต่คาดว่าน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ และน่าจะอยู่ในอาการเมายาซึ่งต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง