xs
xsm
sm
md
lg

ใบไม้เขียวกระบี่บุกจับเรืออวนลากคู่พร้อมลูกเรือลักลอบทำประมงเขตหวงห้าม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ - ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอันดามันกระบี่ หรือใบไม้เขียว ฝ่ากระแสคลื่นบุกจับเรืออวนลากคู่จากภูเก็ตลักลอบทำประมงในเขตหวงห้าม ได้ลูกเรือทั้งไทย และพม่า 12 คน พร้อมสัตว์น้ำอีกกว่า 500 กก. สารภาพยอมเสี่ยงถูกจับเนื่องจากสัตว์น้ำชุกชุม

เวลา 05.00 น.วันนี้ (25 มี.ค.) นายเจริญชัย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลอันดามันกระบี่ (ใบไม้เขียว) ได้รับแจ้งว่ามีเรืออวนลากคู่เข้ามาลักลอบทำประมงในเขตหวงห้าม บริเวณท้องที่ ม.8 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ จึง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รวม 5 นาย นำเรือตรวจการณ์เข้าตรวจสอบพบเรือประมงอวนลากคู่ขนาดใหญ่ กำลังลักลอบทำการประมงในเขตหวงห้าม ที่บริเวณทิศตะวันตกของเกาะไม้ไผ่ จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ได้ผู้ต้องหารวม 12 คน เป็นคนไทย 4 คน เป็นชาวพม่า 8 คน โดยมี นายธีรศักดิ์ รัตนพันธ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 /243 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นไต้ก๋งเรือ

นอกจากนั้น เจ้าหน้าทีได้ยึดของกลางเรืออวนลาก จำนวน 2 ลำ ประกอบด้วย เรือ ป.พิชัยถาวร 8 และ ป.พิชัยถาวร 9 พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด และสัตว์น้ำเบญจพรรณประมาณ 550 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักลอบทำการประมงในเขตห้ามจำสัตว์น้ำบางแห่งของจังหวัดกระบี่ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาทำการบันทึกการจับกุมที่ศูนย์บริหารจัดการประมงทะอันดามันกระบี่

นายเจริญชัย กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้ ได้รับแจ้งจากเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านว่า มีเรืออวนลากจากจังหวัดภูเก็ต เข้าลักลอบทำการประมงบริเวณหน้าเกาะไม้ไผ่ โดยใช้วิธีดับไฟเรือก่อนลงมือลากอวนเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มองเห็น โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลตรวจสอบ และพบเรือดังกล่าวกำลังใช้อวนลากทำการประมงในเขตห้ามจับสัตว์น้ำ ตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมได้ในที่สุด

จากการสอบสวน นายธีรศักดิ์ ไต้ก๋งเรือ รับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องเข้ามาลักลอบทำประมงในเขตหวงห้าม เนื่องจากพบว่าบริเวณดังกล่าวมีสัตว์น้ำชุกชุม แต่ก็ต้องยอมเสี่ยงจากการถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เนื่องจากสามารถจับสัตว์น้ำได้คราวละมากๆ คุ้มค่าต่อการเสี่ยง แต่สุดท้ายก็ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด ก่อนนำส่งพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น