นราธิวาส - เกิดเหตุเพลิงไหม้ส่วนปาล์มในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นับ 1,000 ไร่ ต้องเร่งระดมเจ้าหน้าที่เข้าควบคุม หวั่นมลพิษแพร่กระจาย เหตุจากชาวบ้านเข้าแผ่วถางเพื่อปรับสภาพพื้นที่ในการปลูกปาล์ม
นายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ได้ร่วมกับชาวบ้าน และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย อ.รือเสาะ และ อ.บาเจาะ นำเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง ทำการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เข้าพื้นที่จัดสรรเพื่อทำการเกษตรในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ ที่ชาวบ้านได้ทำการปลูกสวนปาล์มในพื้นที่ 2 จุดใหญ่
คือ ช่วงบริเวณบ้านลูโบ๊ะบือซา ม.3 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ ซึ่งถูกไฟไหม้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้สวนปาล์มได้รับความเสียหายไปกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นต้นเพลิงเอาไว้ได้ แต่ยังมีไฟคุกกรุ่นบ้างเล็กน้อยในบริเวณใต้ผิวดิน ที่มีซากพืชซากสัตว์ทับถมกันเป็นเวลานาน และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
ซึ่งมูลเหตุที่เกิดขึ้นมาจากเจ้าของสวนปาล์มบางรายได้เข้าแผ้วถางเพื่อปรับสภาพพื้นที่ในการปลูกปาล์ม แต่ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แถมลมกระโชกแรง ได้พัดพาเอาเปลวเพลิงไปติดสวนปาล์มที่อยู่ใกล้เคียงจนลุกลามขยายวงกว้าง
โดยล่าสุด นายมาหามะพีสกรี วาแม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส ได้จัดเจ้าหน้าที่ในการดูแลจุดเกิดเหตุตลอด 24 ชม. เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟที่คุกกรุ่นอยู่ชั้นผิวใต้ดิน ลุกลามขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมวอนชาวบ้านที่จะปรับพื้นที่เพื่อปลูกสวนปาล์มในระยะนี้ ให้งดการเผาหรือการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดเปลวไฟขึ้นในพื้นที่ป่าพรุนิคมสหกรณ์บาเจาะโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะสร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อผืนป่า และเป็นมลพิษในวงกว้าง
