ปัตตานี - ผอ.โรงเรียนชุมชนตะบิงตีงี เผย ครูศิริพร เป็นที่รักของครู นักเรียน และชาวบ้าน วันนี้นัดนักเรียนมาแก้สอบที่ไม่ผ่าน ขณะที่สถิติการเสียชีวิตของครูกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ มีครูเสียชีวิตแล้ว 170 ราย แยกเป็น จ.ปัตตานี 75 ราย ยะลา 45 ราย และนราธิวาส 50 ราย จนท.คาดเป็นกลุ่ม นายมะรูดิน ตาเห อาจส่งแนวร่วมชุดใหม่มาก่อเหตุ
กรณีคนร้ายได้ก่อเหตุลอบยิงแล้วเผา นส.ศิริพร ศรีชัย อายุ 43 ปี ครูโรงเรียนชุมชนบ้านตะบิงตีงี อ.มายอ จ.ปัตตานี ชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ขณะขี่รถ จยย.มาจากบ้านพักที่ จ.ยะลา เพื่อเดินทางมาสอนหนังสือที่โรงเรียนดังกล่าว เหตุเกิดบนถนนสายทุ่งยาง-มายอ ม.6 บ้านเจาะบือแน ต.ลุโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (14 มี.ค.) นายอับดุลเลาะ ปูเตะ ผอ.โรงเรียนชุมชนตะบิงตีงี กล่าวว่า ส่วนตัวครูศิริพรเป็นที่รักของครู นักเรียน และชาวบ้าน วันนี้นัดนักเรียนมาแก้สอบที่ไม่ผ่าน เพราะเวลาเดินทางมาโรงเรียนก็มีชาวบ้านทักทายตลอดทาง ตั้งแต่บรรจุมา 3 ปี ครูศิริพรไม่เคยมีปัญหากับใคร ตนเคยบอก และเตือนครูศิริพร 2 ครั้งแล้วว่า เวลามาโรงเรียนให้มาพร้อมครู หรือให้ครูรอ แต่ก็ถูกปฏิเสธเพราะเกรงใจครูคนอื่น อีกทั้งไม่สะดวกเพราะตอนเช้าต้องดูแลแม่ที่อายุมาก ทำให้เวลามาโรงเรียนไม่แน่นอน ตนจึงบอกว่าให้แต่งกายอย่าให้ใครรู้ว่าเป็นครู การสูญเสียครูศิริพรเสียใจมาก เพราะเป็นคนเก่งมีความสามารถเรื่องภาษาอังกฤษ เคยพานักเรียนไปแข่งภาษาระดับภาคมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นครูพุทธ หรือมุสลิม แต่ครูทุกคนเวลามาถึงโรงเรียนเขาสบายใจ
ขณะที่สถิติความสูญเสียครูกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า ล่าสุด มีครู และบุคลากรทางการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียชีวิตแล้ว 170 ราย แยกเป็น จ.ปัตตานี 75 ราย ยะลา 45 ราย และนราธิวาส 50 ราย
ส่วนความคืบหน้าคดีล่าสุด ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง กล่าวว่า ได้มีการสอบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุแล้ว รวมไปถึงการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เบื้องต้นพอทราบเบาะแสของคนร้ายรวมไปถึงผู้ต้องสงสัย ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังเร่งแกะรอยกลุ่มคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้พยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ เช่น ใบปลิว หัวกระสุนปืน และหมวกกันน็อกของคนร้ายที่ตกในที่เกิดเหตุนั้นได้มีการส่งตรวจดีเอ็นเอ แล้วน่าจะรู้ผล 2-3 วันนี้ว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด หากตรงตามพยานหลักฐานก็จะสามารถออกหมายจับได้ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มของ นายมะรูดิน ตาเห ผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี แต่อาจจะส่งแนวร่วมชุดใหม่มาก่อเหตุ
กรณีคนร้ายได้ก่อเหตุลอบยิงแล้วเผา นส.ศิริพร ศรีชัย อายุ 43 ปี ครูโรงเรียนชุมชนบ้านตะบิงตีงี อ.มายอ จ.ปัตตานี ชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ขณะขี่รถ จยย.มาจากบ้านพักที่ จ.ยะลา เพื่อเดินทางมาสอนหนังสือที่โรงเรียนดังกล่าว เหตุเกิดบนถนนสายทุ่งยาง-มายอ ม.6 บ้านเจาะบือแน ต.ลุโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ (14 มี.ค.) นายอับดุลเลาะ ปูเตะ ผอ.โรงเรียนชุมชนตะบิงตีงี กล่าวว่า ส่วนตัวครูศิริพรเป็นที่รักของครู นักเรียน และชาวบ้าน วันนี้นัดนักเรียนมาแก้สอบที่ไม่ผ่าน เพราะเวลาเดินทางมาโรงเรียนก็มีชาวบ้านทักทายตลอดทาง ตั้งแต่บรรจุมา 3 ปี ครูศิริพรไม่เคยมีปัญหากับใคร ตนเคยบอก และเตือนครูศิริพร 2 ครั้งแล้วว่า เวลามาโรงเรียนให้มาพร้อมครู หรือให้ครูรอ แต่ก็ถูกปฏิเสธเพราะเกรงใจครูคนอื่น อีกทั้งไม่สะดวกเพราะตอนเช้าต้องดูแลแม่ที่อายุมาก ทำให้เวลามาโรงเรียนไม่แน่นอน ตนจึงบอกว่าให้แต่งกายอย่าให้ใครรู้ว่าเป็นครู การสูญเสียครูศิริพรเสียใจมาก เพราะเป็นคนเก่งมีความสามารถเรื่องภาษาอังกฤษ เคยพานักเรียนไปแข่งภาษาระดับภาคมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นครูพุทธ หรือมุสลิม แต่ครูทุกคนเวลามาถึงโรงเรียนเขาสบายใจ
ขณะที่สถิติความสูญเสียครูกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า ล่าสุด มีครู และบุคลากรทางการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียชีวิตแล้ว 170 ราย แยกเป็น จ.ปัตตานี 75 ราย ยะลา 45 ราย และนราธิวาส 50 ราย
ส่วนความคืบหน้าคดีล่าสุด ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง กล่าวว่า ได้มีการสอบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุแล้ว รวมไปถึงการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เบื้องต้นพอทราบเบาะแสของคนร้ายรวมไปถึงผู้ต้องสงสัย ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนกำลังเร่งแกะรอยกลุ่มคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้พยานหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ เช่น ใบปลิว หัวกระสุนปืน และหมวกกันน็อกของคนร้ายที่ตกในที่เกิดเหตุนั้นได้มีการส่งตรวจดีเอ็นเอ แล้วน่าจะรู้ผล 2-3 วันนี้ว่าเป็นฝีมือกลุ่มใด หากตรงตามพยานหลักฐานก็จะสามารถออกหมายจับได้ ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มของ นายมะรูดิน ตาเห ผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี แต่อาจจะส่งแนวร่วมชุดใหม่มาก่อเหตุ
