ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พื้นที่ตำบลรัษฎา จ.ภูเก็ต ประสบปัญหาภัยแล้งแล้วหลายหมู่บ้าน ชุมชนเดือดร้อนหนัก เทศบาลฯ ทำแผนแจกน้ำช่วยเหลือ ขอจังหวัดประกาศเป็นเขตภัยแล้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเฝ้าระวังป้องกันเหตุไฟไหม้
นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา กล่าวถึงผลกระทบช่วงหน้าแล้งนี้ ว่า ตอนนี้มีหลายชุมชน หลายหมู่บ้าน รวมถึงสถานที่ราชการ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากน้ำประปามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งได้มีการร้องเรียนเข้ามา ทางเทศบาลฯ ได้แก้ปัญหาโดยการนำน้ำไปแจกจ่ายให้ตามจุดต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน มีประมาณ 30-40 จุด ให้บริการอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่ายังรับมือได้อยู่ แต่ถ้าหากภัยแล้งขยายเวลาออกไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ เชื่อว่าจะมีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้งนี้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อเป็นการรองรับปัญหาดังกล่าว ตอนนี้ทางเทศบาลตำบลรัษฎา ได้จัดทำแผนภัยแล้ง โดยการนำน้ำไปแจก และทำหนังสือไปทางอำเภอ และจังหวัด เพื่อพิจารณาประกาศเป็นเขตภัยแล้ง ซึ่งถ้ามีการประกาศออกมาเราก็จะได้รับความช่วยเหลือทั้งในเรื่องของรถบรรทุกน้ำเข้ามาเสริมในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้รถบรรทุกน้ำ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ของเรามีไม่เพียงพอ และต้องทำงานกันอย่างหนัก ในการนำน้ำดิบจากขุมเหมืองของเทศบาลฯ ซึ่งอยู่ในซอยพะเนียง ไปแจกจ่ายในพื้นที่ประสบภัยซึ่งอยู่ไกล ใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็เกรงว่าจะเกินกำลังที่เครื่องมือของเราจะรับไหว
“ศูนย์ราชการ ตามหมู่บ้าน ชุมชนแออัด ในพื้นที่ที่อยู่ปลายน้ำ หมู่บ้านที่อยู่บนเนินเขา พื้นที่หมู่ 4 หมู่ 1 มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก เรื่องปัญหาขาดแคลนน้ำ สำหรับพื้นที่ ต.รัษฎา นั้น บางช่วงเป็นที่ราบ ที่สูง ไม่สม่ำเสมอกัน ไม่เหมือนบางพื้นที่ แล้วคนอยู่ตามเนินตามเขา อันนี้ก็เป็นปัญหาที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน ตอนนี้ทำแผนแจกน้ำอย่างเดียว แต่รถเรามีน้อย พื้นที่ประสบภัยอยู่ไกล ตอนนี้ก็ประคับประคองอย่างเดียวเพื่อไม่ให้รถเสีย ก็อยู่ระหว่างดำเนินการขอซื้อน้ำจากเอกชนที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ประสบภัย”
นอกจากนี้ นายภูดิท ยังได้กล่าวถึงการเฝ้าระวังปัญหาการเกิดไฟไหม้ป่าช่วงหน้าแล้งนี้ด้วยว่า เมื่อคืนวานนี้ได้เกิดเหตุไฟไหม้หญ้าบริเวณพื้นที่รกร้างหลังหมู่บ้านศรีแสนสุชาติ 3 ซึ่งเป็นที่ดินว่างเปล่า และเกิดเหตุไฟไหม้หญ้าบริเวณที่ดินว่างเปล่าบริเวณท่าเรือนนทศักดิ์ ก็ฝากประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังไม่จุดไฟเผาหญ้า เผาป่าในช่วงหน้าแล้งนี้ ซึ่งบ้านเราเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นไม่ใช้ไฟป่า แต่เป็นเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากการที่ชาวบ้านทำขึ้น
นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา กล่าวถึงผลกระทบช่วงหน้าแล้งนี้ ว่า ตอนนี้มีหลายชุมชน หลายหมู่บ้าน รวมถึงสถานที่ราชการ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากน้ำประปามีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งได้มีการร้องเรียนเข้ามา ทางเทศบาลฯ ได้แก้ปัญหาโดยการนำน้ำไปแจกจ่ายให้ตามจุดต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน มีประมาณ 30-40 จุด ให้บริการอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ถือว่ายังรับมือได้อยู่ แต่ถ้าหากภัยแล้งขยายเวลาออกไปอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ เชื่อว่าจะมีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนน้ำช่วงหน้าแล้งนี้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อเป็นการรองรับปัญหาดังกล่าว ตอนนี้ทางเทศบาลตำบลรัษฎา ได้จัดทำแผนภัยแล้ง โดยการนำน้ำไปแจก และทำหนังสือไปทางอำเภอ และจังหวัด เพื่อพิจารณาประกาศเป็นเขตภัยแล้ง ซึ่งถ้ามีการประกาศออกมาเราก็จะได้รับความช่วยเหลือทั้งในเรื่องของรถบรรทุกน้ำเข้ามาเสริมในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้รถบรรทุกน้ำ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ของเรามีไม่เพียงพอ และต้องทำงานกันอย่างหนัก ในการนำน้ำดิบจากขุมเหมืองของเทศบาลฯ ซึ่งอยู่ในซอยพะเนียง ไปแจกจ่ายในพื้นที่ประสบภัยซึ่งอยู่ไกล ใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็เกรงว่าจะเกินกำลังที่เครื่องมือของเราจะรับไหว
“ศูนย์ราชการ ตามหมู่บ้าน ชุมชนแออัด ในพื้นที่ที่อยู่ปลายน้ำ หมู่บ้านที่อยู่บนเนินเขา พื้นที่หมู่ 4 หมู่ 1 มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก เรื่องปัญหาขาดแคลนน้ำ สำหรับพื้นที่ ต.รัษฎา นั้น บางช่วงเป็นที่ราบ ที่สูง ไม่สม่ำเสมอกัน ไม่เหมือนบางพื้นที่ แล้วคนอยู่ตามเนินตามเขา อันนี้ก็เป็นปัญหาที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน ตอนนี้ทำแผนแจกน้ำอย่างเดียว แต่รถเรามีน้อย พื้นที่ประสบภัยอยู่ไกล ตอนนี้ก็ประคับประคองอย่างเดียวเพื่อไม่ให้รถเสีย ก็อยู่ระหว่างดำเนินการขอซื้อน้ำจากเอกชนที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ประสบภัย”
นอกจากนี้ นายภูดิท ยังได้กล่าวถึงการเฝ้าระวังปัญหาการเกิดไฟไหม้ป่าช่วงหน้าแล้งนี้ด้วยว่า เมื่อคืนวานนี้ได้เกิดเหตุไฟไหม้หญ้าบริเวณพื้นที่รกร้างหลังหมู่บ้านศรีแสนสุชาติ 3 ซึ่งเป็นที่ดินว่างเปล่า และเกิดเหตุไฟไหม้หญ้าบริเวณที่ดินว่างเปล่าบริเวณท่าเรือนนทศักดิ์ ก็ฝากประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังไม่จุดไฟเผาหญ้า เผาป่าในช่วงหน้าแล้งนี้ ซึ่งบ้านเราเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นไม่ใช้ไฟป่า แต่เป็นเหตุไฟไหม้ที่เกิดจากการที่ชาวบ้านทำขึ้น
