นราธิวาส - จุฬาราชมนตรี ร่วม ทวี เลขาฯ ศอ.บต.พร้อมด้วยคณะผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน ร่วมจัดงานการกุศล สานสัมพันธ์พัฒนาการศึกษา ร.ร.อิสลามบูรพาวิทยา ในโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนฯ เพื่อสร้างมัสยิด-อาคาร
วันนี้ (10 มี.ค.) พ.ตอ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.นายอาซิส พิทักษ์ขุนพล จุฬาราชมนตรี ได้เป็นประธานร่วมจัดงานการกุศล สานสัมพันธ์พัฒนาการศึกษา โรงเรียนอิสลามบูรพาวิทยา ในโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนฯ ที่บ้านใหม่ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมี น.ส.ซูไยดะห์ ดอเลาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนอิสลามบูรพาวิทยา และนายอัสมีรี แวเด็ง นายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ พร้อมด้วยคณะผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่กว่า 1,000 คน ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหาทุน และรายได้เพื่อสร้างมัสยิด และอาคารในโรงเรียนดังกล่าว
โดย พ.ต.อ.ทวี เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดเผยว่า โรงเรียนอิสลามบูรพา หรือปอเนาะสะปอม สถาบันอิสลามศึกษา ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานถึง 40 ปี ครั้งหนึ่ง ทางโรงเรียนเคยต้องคดีให้ที่พักพิงแก่กลุ่มก่อความไม่สงบ และถูกทางการสั่งปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ปี 2550 และได้มีการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม จนโรงเรียนได้รับอนุญาตเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา รวมระยะประมาณเวลา 3 ปี
ทุกฝ่ายผ่านวิกฤตแล้ว และตนเชื่อมั่นว่า การศึกษาให้แก่บุตรหลานและเยาวชนในพื้นที่สถานศึกษาอิสลาม เป็นที่สร้างจริยธรรม ศิลธรรม เพื่อสร้างคุณภาพชิวิตให้เกิดขึ้นแก่บุตรหลานของคนในพื้นที่ และทางผู้บริหาร ครู พร้อมที่จะเดินหน้า และจะนำนักเรียนเข้าสู่สังคม สร้างในสิ่งที่ดีงาม อันจะทำให้เกิดเป็นทุนทางสังคมในกระบวนการสร้างสันติสุขขึ้น และอยากเห็นทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ และประชาชนอย่ามองคนที่เห็นต่างคือตัวปัญหา เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้น หากมีความตั้งใจปัญหาจะได้รับการแก้ไข ความมั่นคงจะเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ได้มอบเงินช่วยเหลือสบทุนส่วนหนึ่งให้แก่โรงเรียนดังกล่าว
ขณะที่ นายอาซิส จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดจากกิเลส และการไม่รู้หน้าที่ของคน โดยคนเราต้องทำหน้าที่ 2 ส่วน คือ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และอย่าทำเกินหน้าที่จนสร้างปมให้คนอื่น ตนจึงอยากเตือนทุกฝ่าย และชาวไทยมุสลิมว่า ทุกวันนี้ กิเลส และความต้องการของคนในผลประโยชน์บังตาบังใจ นำมาซึ่งเหตุความไม่สงบในพื้นที่
จึงฝากเตือนสติ ยึดคำสั่งท่านศาสดา แนวทางอิสลามที่ถูกต้อง เพราะหน้าที่การสร้างสันติสุข และสันติภาพ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกคน อย่าให้ความอยากครอบงำ จนนำพากระทำการทีผิดตามหลักศาสนาอิสลาม เพราะนั่นหมายถึงความหายนะ นำสู่ประตูนรก ไม่ใช่สวรรค์ และเชื่อมั่นว่า โรงเรียนแห่งนี้ ก้าวอนาคต จะเป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างอริยธรรม จริยธรรม ศีลธรรมให้แก่คนในพื้นที่ต่อไปได้
ด้านนาง น.ส.ซูไบดะห์ ดอเลาะ ผอ.รร.อิสลามบูรพาวิทยา และผู้ได้รับใบอนุญาต กล่าวว่า ตนดีใจหลังจากโรงเรียนสามารถเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งหนึ่ง แม้จะเป็นโรงเรียนเอกชนเล็กๆ มีนักเรียนชายหญิงรวม 227 คน สอนสามัญชั้นมัธยมปีที่ 1-6 และสายศาสนาอิสลาม คืออิสลามตอนต้น-ปลาย ส่วนเรื่องในอดีต อยากให้ทุกฝ่ายมองอย่างเป็นธรรม เพราะคดียกฟ้องแล้ว และขณะนี้โรงเรียนได้อยู่ในโครงการพระบรราชูปถัมป์ ในสมเด็จพระเทพฯ ลงวันที่ 14 ม.ค.56 ทางผู้บริหารได้น้อมนำกระแสพระราชดำริ เพื่อเป็นเรียนแบบดังกล่าว และผู้บริหาร และครูทุกคนมีความมุ่งมั่นก้าวไปข้างหน้า เพื่อสร้างบุตรหลานของคนในพื้นที่ และจากพื้นทีอื่นที่มาเรียนที่นี่ได้ เพื่อเป็นคนดีของสังคมอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนอิสลามบูรพา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “ปอเนาะสะปอม” ตั้งอยู่ที่บ้านใหม่ หมู่ 5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ถูกสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.2550 ภายหลังฝ่ายความมั่นคงได้เข้าตรวจค้นภายในโรงเรียนเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ปีเดียวกัน และสามารถจับกุมผู้ต้องหา ผู้ต้องสงสัยรวมทั้งสิ้น 7 คน พร้อมด้วยของกลางวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง และอุปกรณ์ประกอบระเบิดจำนวนมากจากบ้านร้างซึ่งตั้งอยู่ในเขตโรงเรียน
หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้คือ นายมะนาเซ ยา แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีความเชี่ยวชาญด้านการต่อวงจรระเบิด และยังเป็นครูฝึกให้แก่แนวร่วมรุ่นใหม่ ผลของการตรวจค้นจับกุม ทำให้มีการให้ข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบางรายว่า โรงเรียนอิสลามบูรพาเป็นศูนย์กลางผลิตระเบิดแสวงเครื่องเพื่อส่งกระจายไปก่อเหตุในเกือบทุกพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเสนอเรื่องให้ นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งถอนใบอนุญาตมูลนิธิอัดดีรอซาตอัลอิสลามียะห์ และปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนอิสลามบูรพาตั้งแต่บัดนั้น และต่อมา ทางโรงเรียนได้รับอนุญาตเปิดใหม่ในวันที่ 26 ธ.ค.54 ดังกล่าว