นครศรีธรรมราช - กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งเจาะบาดาลรวมทั้งหมด 17 จุด ช่วยเกษตรกรลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หลังเจอวิกฤตแล้งหนักนานกว่า 2 เดือน พร้อมตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันไฟป่า ขณะที่หน่วยบินฝนหลวงตั้งฐานปฏิบัติการ 2 จุด คลุมพื้นที่ทั่วภาคใต้ เริ่มปฏิบัติการ 15 มีนาคมนี้
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสุพจน์ เจิมสวัสดิ์พงศ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลขุดเจาะบาดาล เข้าขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรอย่างต่อเนื่องใน ต.เกาะทวด และ ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รวม 11 จุดพร้อมกัน เพื่อนำน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมจำนวนมากของทั้ง 2 ตำบลที่มีทั้งปาล์มน้ำมัน ส้มโอ และพืชไร่ระยะสั้น เช่น ฟักทอง ที่กำลังอยู่ระหว่างเริ่มเก็บผลผลิต โดยการร้องขอขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.นครศรีธรรมราช ได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ไฟป่าและหมอกควัน ปี 2557 โดยตั้งคณะทำงานเป็น 7 คณะ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ประกอบด้วย น้ำเพื่อการเกษตรในเขตชลประทาน ให้ชลประทานจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ น้ำดื่ม/น้ำประปาในเขตชุมชน และในเขตเทศบาล
โดยให้ท้องถิ่นจังหวัด และการประปาส่วนภูมิภาค รับผิดชอบ น้ำอุปโภคบริโภค นอกเขตชลประทาน ให้ที่ทำการปกครองจังหวัดรับผิดชอบ การปฏิบัติการฝนหลวงให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดรับผิดชอบ ไฟไหม้บ้านเรือน และเรือกสวนไร่นา ให้ท้องถิ่นรับผิดชอบ และอาชญากรรมในช่วงหน้าแล้ง ให้ตำรวจภูธรจังหวัด และที่ทำการปกครองจังหวัดรับผิดชอบ ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ และรายงานผลเดือนละ 3 ครั้ง ทุกวันที่ 10, 20 และ 30 ของเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2557 หรือจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้ตั้งฐานปฏิบัติ ณ กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี โดยรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบน เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ในส่วนของภาคใต้ตอนล่าง ตั้งฐานปฏิบัติการ ณ จังหวัดสงขลา โดยมีการสนับสนุนบินปฏิบัติการทำฝนหลวงในเขตพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย ขณะที่สภาพความแห้งแล้งยังคงเพิ่มระดับความรุนแรงเนื่องจากฝนทิ้งช่วงในเขตลุ่มน้ำปากพนัง และจังหวัดนครศรีธรรมราช มาแล้วมากกว่า 2 เดือน
วันนี้ (8 มี.ค.) นายสุพจน์ เจิมสวัสดิ์พงศ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลขุดเจาะบาดาล เข้าขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรอย่างต่อเนื่องใน ต.เกาะทวด และ ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช รวม 11 จุดพร้อมกัน เพื่อนำน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมจำนวนมากของทั้ง 2 ตำบลที่มีทั้งปาล์มน้ำมัน ส้มโอ และพืชไร่ระยะสั้น เช่น ฟักทอง ที่กำลังอยู่ระหว่างเริ่มเก็บผลผลิต โดยการร้องขอขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.นครศรีธรรมราช ได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกัน และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ไฟป่าและหมอกควัน ปี 2557 โดยตั้งคณะทำงานเป็น 7 คณะ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ประกอบด้วย น้ำเพื่อการเกษตรในเขตชลประทาน ให้ชลประทานจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ น้ำดื่ม/น้ำประปาในเขตชุมชน และในเขตเทศบาล
โดยให้ท้องถิ่นจังหวัด และการประปาส่วนภูมิภาค รับผิดชอบ น้ำอุปโภคบริโภค นอกเขตชลประทาน ให้ที่ทำการปกครองจังหวัดรับผิดชอบ การปฏิบัติการฝนหลวงให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดรับผิดชอบ ไฟไหม้บ้านเรือน และเรือกสวนไร่นา ให้ท้องถิ่นรับผิดชอบ และอาชญากรรมในช่วงหน้าแล้ง ให้ตำรวจภูธรจังหวัด และที่ทำการปกครองจังหวัดรับผิดชอบ ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ และรายงานผลเดือนละ 3 ครั้ง ทุกวันที่ 10, 20 และ 30 ของเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2557 หรือจนกว่าสถานการณ์จะยุติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ได้ตั้งฐานปฏิบัติ ณ กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี โดยรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนบน เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมนี้เป็นต้นไป ในส่วนของภาคใต้ตอนล่าง ตั้งฐานปฏิบัติการ ณ จังหวัดสงขลา โดยมีการสนับสนุนบินปฏิบัติการทำฝนหลวงในเขตพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย ขณะที่สภาพความแห้งแล้งยังคงเพิ่มระดับความรุนแรงเนื่องจากฝนทิ้งช่วงในเขตลุ่มน้ำปากพนัง และจังหวัดนครศรีธรรมราช มาแล้วมากกว่า 2 เดือน