ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รับสมัคร ส.ว.ภูเก็ต วันแรกคึกคัก มีผู้สมัครแล้ว 5 ราย ทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย และอดีตนักการเมืองท้องถิ่น กกต.คาดมีผู้มาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต ได้มีการเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต เป็นวันแรก โดยบรรยากาศในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจากทุกสาขาอาชีพเดินทางมาให้กำลังใจผู้มาลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ซึ่งมีทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย และอดีตนักการเมืองท้องถิ่น เดินทางมาลงสมัครก่อนเวลา 08.30 น.มี จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายบำรุง รุ่งเรือง นายทรงวุฒิ หงษ์หยก นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายชัยเยนทร์ เมืองแมน และนายชัยยศ ปัญญาไวย โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต และคณะเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานในรับการดำเนินการรับสมัคร
โดยในเวลา 08.30 น. ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผอ.กกต.ภูเก็ต ได้ดำเนินการให้ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.ทั้ง 5 คน จับฉลากหมายเลขผู้สมัคร โดยผู้ที่จับฉลากได้หมายเลข 1 คือ นายบำรุง รุ่งเรือง หมายเลข 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย หมายเลข 3 นายทรงวุฒิ หงษ์หยก หมายเลข 4 นายชัยเยนทร์ เมืองแมน และหมายเลข 5 นายมาโนช พันธ์ฉลาด และหลังจากมีการจับฉลากหมายเลขผู้สมัครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง กกต.ภูเก็ต ได้ให้ผู้สมัครลงบันทึกถ้อยคำ และเสียค่าใช้จ่ายในการรับสมัคร
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการรับสมัคร ส.ว.ในจังหวัดภูเก็ต ว่า บรรยากาศการรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจนถึงขณะนี้ทาง กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องเรียนถึงการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทาง กกต. จะจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประมาณร้อยละ 60 โดยจังหวัดภูเก็ต มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 363 หน่วย เลือกตั้งในการเลือกตั้งวันที่ 30 มีนาคม 2557 นี้
ขณะที่ผู้สมัคร ส.ว. หมายเลข 1 นายบำรุง รุ่งเรือง อายุ 56 ปี อาชีพ ที่ปรึกษากฎหมายอิสระ กล่าวถึงการตัดสินใจลงสมัคร ส.ว. ว่า เนื่องจากตนมีความตั้งใจที่จะอาสารับใช้ชาติบ้านเมือง และประชาชน ก็คิดมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว ด้วยเห็นว่าการที่มี ส.ว.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งถือเป็นเรื่องที่ดีให้ประชาชนเลือกคนของเขาเองเข้าไปทำหน้าที่ในสภา การทำงาน ส.ว.ต้องมีจิตอาสาเป็นลำดับแรก และเห็นว่าตนมีความสามารถจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ซึ่ง ส.ว.มีหน้าที่ไปกลั่นกรองกฎหมาย จึงได้ตัดสินใจลงสมัคร
ด้านผู้สมัคร ส.ว.หมายเลข 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย อายุ 47 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยความพร้อม และมีความมุ่งมั่นที่จะไปทำหน้าที่ในการปฏิรูปกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง และพี่น้องประชาชน และด้วยประสบการณ์ ซึ่งผ่านงานด้านกฎหมายมาเกือบ 20 ปี ถือว่ามาถึงจุดที่พีคที่สุดแล้วด้านประสบการณ์การทำงาน และเมื่อมีโอกาสผ่านเข้ามา ตนจึงตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.ในครั้งนี้ เพื่อเสนอตัวเข้าไปทำหน้าที่ก็จะเน้นในเรื่องของการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งทุกวันนี้ประชาชนเองก็ตื่นตัวกับการปฏิรูป ส่วนรูปแบบจะใช้แบบไหนอย่างไร จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง ส.ว.ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง และถ้าตนได้เข้าไปทำหน้าที่ร่วมกับ ส.ว.คนอื่นๆ ในสภา เชื่อว่าการปฏิรูปก็จะเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการอย่างแน่นอน
ผู้สมัคร ส.ว.หมายเลข 3 นายทรงวุฒิ หงษ์หยก อดีตประธานสภาเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวว่า ที่ตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.ในครั้งนี้ เนื่องจากตนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมา 6 สมัย กินระยะเวลากว่า 25 ปีแล้ว เข้าใจปัญหา และความต้องการของท้องถิ่นเป็นอย่างดี ก็ถือได้ว่าเป็นประกาศนียบัตรชิ้นหนึ่งที่เราได้รับการยอมรับจากประชาชน และด้วยมอง ว่า ส.ว.เป็นโอกาสหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้ปัญหาของท้องถิ่นด้านต่างๆ ได้รับการแก้ไข ตนจึงตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.ดังกล่าว
“เรามองเห็นปัญหา แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ในระดับท้องถิ่น แต่มองเห็นในระดับชาติ ซึ่งเราสามารถทำได้ ถ้าได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ว.ก็จะดำเนินการในเรื่องกลั่นกรองกฎหมาย ต่อต้านคอร์รัปชัน ต้องไม่โกง โปร่งใส ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เคยมีแผล หรือไปเรียกรับผลประโยชน์ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยตรงส่วนนี้” นายทรงวุฒิ กล่าว
ขณะที่ผู้สมัคร ส.ว. หมายเลข 4 นายชัยเยนทร์ เมืองแมน อายุ 65 ปี อดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า ที่ตนตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.เพราะว่า ส.ว.ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีนักวิชาการ เลยอยากให้นักวิชาการเข้ามาให้คนได้เลือก และอยากเข้ามาช่วยในวงการการศึกษา จึงตัดสินใจลงสมัคร ถ้าได้รับเลือกตั้งก็จะเข้าไปร่วมกับ 40 ส.ว.ดูแลความถูกต้องชอบธรรม
ส่วนทางด้านผู้สมัคร หมายเลข 5 นายมาโนช พันธ์ฉลาด อายุ 46ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองท้องถิ่น ซึ่งอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล มาเป็นเวลานานพอสมควร และด้วยมองว่าภูเก็ตมีความพร้อมในการปกครองตนเองรูปแบบพิเศษ ก็ต้องการมีผลักดันขับเคลื่อน แต่อำนาจอยู่ส่วนกลางเป็นหลัก ตนจึงอาสาที่จะเข้าไปปฏิรูปกฎหมายสำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่จะขับเคลื่อนให้ท่องเที่ยวภูเก็ตน่าอยู่
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต ได้มีการเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ต เป็นวันแรก โดยบรรยากาศในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจากทุกสาขาอาชีพเดินทางมาให้กำลังใจผู้มาลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ซึ่งมีทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย และอดีตนักการเมืองท้องถิ่น เดินทางมาลงสมัครก่อนเวลา 08.30 น.มี จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายบำรุง รุ่งเรือง นายทรงวุฒิ หงษ์หยก นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายชัยเยนทร์ เมืองแมน และนายชัยยศ ปัญญาไวย โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต และคณะเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานในรับการดำเนินการรับสมัคร
โดยในเวลา 08.30 น. ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายกิตติพงษ์ เที่ยงคุณากฤต ผอ.กกต.ภูเก็ต ได้ดำเนินการให้ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.ทั้ง 5 คน จับฉลากหมายเลขผู้สมัคร โดยผู้ที่จับฉลากได้หมายเลข 1 คือ นายบำรุง รุ่งเรือง หมายเลข 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย หมายเลข 3 นายทรงวุฒิ หงษ์หยก หมายเลข 4 นายชัยเยนทร์ เมืองแมน และหมายเลข 5 นายมาโนช พันธ์ฉลาด และหลังจากมีการจับฉลากหมายเลขผู้สมัครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง กกต.ภูเก็ต ได้ให้ผู้สมัครลงบันทึกถ้อยคำ และเสียค่าใช้จ่ายในการรับสมัคร
นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการรับสมัคร ส.ว.ในจังหวัดภูเก็ต ว่า บรรยากาศการรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจนถึงขณะนี้ทาง กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องเรียนถึงการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทาง กกต. จะจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประมาณร้อยละ 60 โดยจังหวัดภูเก็ต มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 363 หน่วย เลือกตั้งในการเลือกตั้งวันที่ 30 มีนาคม 2557 นี้
ขณะที่ผู้สมัคร ส.ว. หมายเลข 1 นายบำรุง รุ่งเรือง อายุ 56 ปี อาชีพ ที่ปรึกษากฎหมายอิสระ กล่าวถึงการตัดสินใจลงสมัคร ส.ว. ว่า เนื่องจากตนมีความตั้งใจที่จะอาสารับใช้ชาติบ้านเมือง และประชาชน ก็คิดมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว ด้วยเห็นว่าการที่มี ส.ว.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งถือเป็นเรื่องที่ดีให้ประชาชนเลือกคนของเขาเองเข้าไปทำหน้าที่ในสภา การทำงาน ส.ว.ต้องมีจิตอาสาเป็นลำดับแรก และเห็นว่าตนมีความสามารถจะทำหน้าที่ตรงนี้ได้ ซึ่ง ส.ว.มีหน้าที่ไปกลั่นกรองกฎหมาย จึงได้ตัดสินใจลงสมัคร
ด้านผู้สมัคร ส.ว.หมายเลข 2 นายชัยยศ ปัญญาไวย อายุ 47 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยความพร้อม และมีความมุ่งมั่นที่จะไปทำหน้าที่ในการปฏิรูปกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง และพี่น้องประชาชน และด้วยประสบการณ์ ซึ่งผ่านงานด้านกฎหมายมาเกือบ 20 ปี ถือว่ามาถึงจุดที่พีคที่สุดแล้วด้านประสบการณ์การทำงาน และเมื่อมีโอกาสผ่านเข้ามา ตนจึงตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.ในครั้งนี้ เพื่อเสนอตัวเข้าไปทำหน้าที่ก็จะเน้นในเรื่องของการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งทุกวันนี้ประชาชนเองก็ตื่นตัวกับการปฏิรูป ส่วนรูปแบบจะใช้แบบไหนอย่างไร จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง ส.ว.ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง และถ้าตนได้เข้าไปทำหน้าที่ร่วมกับ ส.ว.คนอื่นๆ ในสภา เชื่อว่าการปฏิรูปก็จะเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการอย่างแน่นอน
ผู้สมัคร ส.ว.หมายเลข 3 นายทรงวุฒิ หงษ์หยก อดีตประธานสภาเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวว่า ที่ตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.ในครั้งนี้ เนื่องจากตนเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมา 6 สมัย กินระยะเวลากว่า 25 ปีแล้ว เข้าใจปัญหา และความต้องการของท้องถิ่นเป็นอย่างดี ก็ถือได้ว่าเป็นประกาศนียบัตรชิ้นหนึ่งที่เราได้รับการยอมรับจากประชาชน และด้วยมอง ว่า ส.ว.เป็นโอกาสหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้ปัญหาของท้องถิ่นด้านต่างๆ ได้รับการแก้ไข ตนจึงตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.ดังกล่าว
“เรามองเห็นปัญหา แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ในระดับท้องถิ่น แต่มองเห็นในระดับชาติ ซึ่งเราสามารถทำได้ ถ้าได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ว.ก็จะดำเนินการในเรื่องกลั่นกรองกฎหมาย ต่อต้านคอร์รัปชัน ต้องไม่โกง โปร่งใส ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เคยมีแผล หรือไปเรียกรับผลประโยชน์ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยตรงส่วนนี้” นายทรงวุฒิ กล่าว
ขณะที่ผู้สมัคร ส.ว. หมายเลข 4 นายชัยเยนทร์ เมืองแมน อายุ 65 ปี อดีตคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า ที่ตนตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.เพราะว่า ส.ว.ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีนักวิชาการ เลยอยากให้นักวิชาการเข้ามาให้คนได้เลือก และอยากเข้ามาช่วยในวงการการศึกษา จึงตัดสินใจลงสมัคร ถ้าได้รับเลือกตั้งก็จะเข้าไปร่วมกับ 40 ส.ว.ดูแลความถูกต้องชอบธรรม
ส่วนทางด้านผู้สมัคร หมายเลข 5 นายมาโนช พันธ์ฉลาด อายุ 46ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองท้องถิ่น ซึ่งอดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภา อบจ.ภูเก็ต และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล มาเป็นเวลานานพอสมควร และด้วยมองว่าภูเก็ตมีความพร้อมในการปกครองตนเองรูปแบบพิเศษ ก็ต้องการมีผลักดันขับเคลื่อน แต่อำนาจอยู่ส่วนกลางเป็นหลัก ตนจึงอาสาที่จะเข้าไปปฏิรูปกฎหมายสำคัญๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่จะขับเคลื่อนให้ท่องเที่ยวภูเก็ตน่าอยู่