นครศรีธรรมราช - ลูกค้ายังทะลักถอนเงิน พร้อมขนสลากออมสินขายคืน ธ.ออมสิน นครศรีฯ เงินสดไม่เพียงพอต้องจ่ายเช็คแทน ผู้บริหารอัด ผอ.ทำความเชื่อมั่นออมสินทรุดควรรับผิดชอบ เผยเงินฝากอาจไหลออกกว่าพันล้าน
วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ประชาชนจำนวนมากได้ทยอยเข้าถอนเงินสด และขายคืนสลากออมสินทุกประเภทกับธนาคารออมสินทุกสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงบ่ายปรากฏว่า ทุกสาขาของธนาคารออมสินใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสังกัดอยู่ในสำนักงานธนาคารออมสินภาค 17 ต้องยุติการจ่ายเงินสดเนื่องจากจำนวนเงินสดในระบบมีไม่เพียงพอ จึงต้องจ่ายออกมาเป็นเช็คของธนาคารแทนทำให้ประชาชนหลายคนไม่พอใจ
ขณะเดียวกัน พบว่านอกจากมีการปิดบัญชี หรือถอนเงินสดแล้วนั้น ยังมีการนำเอาสลากออมสินหลายประเภทนำมาขายคืนจำนวนมากเช่นเดียวกัน หลายรายแสดงความเห็นสอดคล้องกันว่า การถอนเงินนั้นเนื่องจากต้องการให้ผู้บริหารธนาคาร และรัฐบาลรู้ว่าประชาชนไม่พอใจ รวมทั้งไม่มั่นใจในผู้บริหารธนาคารนี้ ในทางกลับกันพบว่า ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ กลับมียอดเงินฝากเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ขณะที่ผู้บริหารรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า บอร์ดออมสิน และผู้บริหารได้ตัดสินใจผิดพลาดอย่างมาก สิ่งที่ได้สร้างความเสียหายคือ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อธนาคารที่มีมาถึง 100 ปีแล้ว เงินต้นทุนเป็นเงินพระราชทานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ธนาคารนี้เป็นของประชาชนโดยแท้ แต่การตัดสินใจนี้แม้ว่าจะอ้างว่าเป็นการกู้ตามปกติของระหว่างธนาคาร แต่ความเสียหายที่ได้รับวันนี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบ
ส่วนยอดในการเบิกจ่ายออกไปจากระบบของธนาคารในวันนี้มีการประเมินตัวเลขรวมในภาคใต้ตอนกลางไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และหากรวมภาคใต้ตอนบนอาจเป็นไปได้สูงว่าอาจจะเกิน 1 พันล้านบาทด้วยซ้ำ
วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ประชาชนจำนวนมากได้ทยอยเข้าถอนเงินสด และขายคืนสลากออมสินทุกประเภทกับธนาคารออมสินทุกสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงบ่ายปรากฏว่า ทุกสาขาของธนาคารออมสินใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งสังกัดอยู่ในสำนักงานธนาคารออมสินภาค 17 ต้องยุติการจ่ายเงินสดเนื่องจากจำนวนเงินสดในระบบมีไม่เพียงพอ จึงต้องจ่ายออกมาเป็นเช็คของธนาคารแทนทำให้ประชาชนหลายคนไม่พอใจ
ขณะเดียวกัน พบว่านอกจากมีการปิดบัญชี หรือถอนเงินสดแล้วนั้น ยังมีการนำเอาสลากออมสินหลายประเภทนำมาขายคืนจำนวนมากเช่นเดียวกัน หลายรายแสดงความเห็นสอดคล้องกันว่า การถอนเงินนั้นเนื่องจากต้องการให้ผู้บริหารธนาคาร และรัฐบาลรู้ว่าประชาชนไม่พอใจ รวมทั้งไม่มั่นใจในผู้บริหารธนาคารนี้ ในทางกลับกันพบว่า ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ กลับมียอดเงินฝากเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ขณะที่ผู้บริหารรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า บอร์ดออมสิน และผู้บริหารได้ตัดสินใจผิดพลาดอย่างมาก สิ่งที่ได้สร้างความเสียหายคือ ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อธนาคารที่มีมาถึง 100 ปีแล้ว เงินต้นทุนเป็นเงินพระราชทานของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ธนาคารนี้เป็นของประชาชนโดยแท้ แต่การตัดสินใจนี้แม้ว่าจะอ้างว่าเป็นการกู้ตามปกติของระหว่างธนาคาร แต่ความเสียหายที่ได้รับวันนี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบ
ส่วนยอดในการเบิกจ่ายออกไปจากระบบของธนาคารในวันนี้มีการประเมินตัวเลขรวมในภาคใต้ตอนกลางไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และหากรวมภาคใต้ตอนบนอาจเป็นไปได้สูงว่าอาจจะเกิน 1 พันล้านบาทด้วยซ้ำ