สุราษฎร์ธานี - จังหวัดสุราษฎร์ เตรียมจัดงาน “สุราษฎร์ ฟู้ดแฟร์ 2014” ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เมืองสุราษฎร์ธานี พบกับการออกร้านจำหน่ายอาหารนานาชนิด จากร้านอาหารในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดใกล้เคียง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย คาดเงินสะพัดกว่า 30 ล้านบาท
นายสุทัศน์ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันจัดงานมหกรรมอาหาร ภายใต้ชื่องาน “สุราษฎร์ ฟู้ดแฟร์” โดยในปีนี้มีกำหนดจัดงานในวันที่ 8-15 มี.ค.2557 ณ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี ตั้งแต่บริเวณท่าปลาวาฬ ถึงบริเวณศาลหลักเมือง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยการจัดงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ธุรกิจบริการด้านอาหาร ของดีเมืองสุราษฎร์ฯ รวมทั้งกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยเน้นอาหารทะเล จุดขายท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งทางบกและทางทะเล มีประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่โดดเด่น อาหารการกินอุดมสมบูรณ์ และมากไปด้วยวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน มุสลิม และอาหารเฉพาะถิ่น มีพืชผัก ผลไม้ กุ้ง หอย ปู ปลาสดๆ ให้เลือกรับประทานตลอดทั้งปี ทั้งยังเป็นแหล่งผลิตที่สามารถส่งออกไปขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
จึงชวนให้ประชาชนทั้งในจังหวัด และแขกผู้มาเยือนได้เลือกสรรอาหารรับประทานกันอย่างตามใจชอบ ทั้งอาหารพื้นบ้าน อาหารจีน ไทย มุสลิม และโดยเฉพาะอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อระดับประเทศ ในเรื่องของรสชาติ และความสดอร่อย หอยนางรมที่ตัวอ้วนโต จนมีการกล่าวขานกันว่า “หากมาสุราษฎร์ฯ แล้วไม่ได้กินหอยนางรมก็เหมือนมาไม่ถึง” ซึ่งภายในงานปีนี้จะมีร้านอาหารทะเลเข้ามาจำหน่ายสดๆ ปิ้งย่างสดๆ รับประทานได้ภายในงานด้วย
ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารนานาชนิด จากร้านอาหารในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดใกล้เคียง การออกร้าน และนิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การประกวดทำอาหารประเภทต่างๆ มหกรรมดนตรี และการแสดงพื้นบ้าน กิจกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ บนเวทีกลางมีนักร้องชื่อดังทั่งประเทศร่วมขับกล่อมเสียงเพลงด้านบันเทิง เป็นต้น
คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงพร้อมกับนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติเป็นจำนวนมาก จะมีเงินหมุนเวียนเข้ามากว่า 30 ล้านบาท