ตรัง - ภาคเอกชนเตรังเสนอปรับรูปแบบการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรวันวาเลนไทน์ หลังรูปแบบเดิมซ้ำซากมา 17 ปี พร้อมระดมความคิดทุกภาคส่วนเพิ่มความหลากหลายให้กิจกรรม เผยแม้วิวาห์ใต้สมุทรมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก แต่ไม่คุ้มค่าการลงทุน เล็งกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด รับพิษการเมืองทำยอดคู่บ่าว-สาวลด
วันนี้ (7 ก.พ.) นายแพทย์สมชัย เจียรนัยศิลป์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตรัง และนายกสมาคมการโรงแรมและท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การจัดงานวิวาห์ใต้สมุทร ในช่วงเดือนแห่งความรัก หรือเทศกาลวาเลนไทน์ ที่ได้ดำเนินการตลอดในช่วง 17 ปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เพราะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศรู้จักจังหวัดตรังมากขึ้น เนื่องจากมีรูปแบบที่แปลกแตกต่างไปจากการจัดงานของจังหวัดอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม แม้การจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังกลับมิได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่สูงมากนัก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มชาวไทย หรือกลุ่มเอเชีย ด้วยกัน ทั้งๆ ที่ต้องทุ่มงบประมาณในการจัดงานไปครั้งละหลายล้านบาท ขณะเดียวกัน จังหวัดตรังก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพราะนอกเหนือจากทะเลแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ถ้ำ ซึ่งสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ดังนั้น จึงอยากเสนอให้ใช้โอกาสนี้ผนวกเรื่องการท่องเที่ยวเข้าไป โดยการเปิดโอกาสให้บุคคลอื่นที่มิใช่คู่บ่าวสาว สามารถเดินทางมาเข้าร่วมงานวิวาห์ใต้สมุทรได้ด้วย โดยการจัดทำเป็นแพกเกจทัวร์ รวมทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเข้าร่วมงานกิจกรรม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้บริษัทนำเที่ยว ทั้งในจังหวัดตรัง และที่กรุงเทพฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดตรังเกิดความคึกคักมากขึ้น และเป็นการยกระดับการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรไปสู่ระดับสากล
นายสมพล เชียรวิชัย รองประธานหอการค้าจังหวัดตรังเปิดเผยว่า แม้ในช่วงของการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดตรังไม่มากนัก แต่สิ่งที่ได้รับหลังจากนั้นก็คือ ชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รับรู้ไปทั่วประเทศ หรือทั่วโลก จนส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดตรังอย่างต่อเนื่อง เพราะคู่บ่าวสาวมิใช่จะมาทำกิจกรรมเฉพาะตามเกาะแก่งเท่านั้น ยังเดินทางไปตามชายหาด รวมทั้งถ้ำ สวนพฤกษศาสตร์ สวนสาธารณะ สถาปัตยกรรมโบราณต่างๆ ตลอดจนร้านอาหาร ซึ่งต่างก็ได้รับผลบวกทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม การจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรในช่วงหลังๆ มา เริ่มมีคู่แข่งจากจังหวัดอื่นพยายามจัดกิจกรรมในลักษณะคล้ายกัน แม้จะไม่เกิดผลกระทบ แต่ก็ต้องพยายามหารูปแบบที่โดดเด่น หรือแตกต่างออกไป เช่น การเชิญคู่บ่าวสาวชาวต่างชาติมาร่วมงานให้มากขึ้น แต่ล่าสุด ในปี 2557 ก็ต้องประสบปัญหาจากสถานการณ์การเมือง ทำให้มีคู่บ่าวสาวบางประเทศยกเลิกการมาร่วมงาน อย่างไรก็ตาม ด้วยความมีจุดแข็ง และความร่วมมือจากหลายด้านจึงทำให้การจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรยังคงเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง