ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ที่ปรึกษา (สบ 10) ลงภูเก็ต คุยผลการปฏิบัติงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ได้ผลทำคดีลด นักท่องเที่ยวร้องเรียนน้อยลง แต่เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ทำงานเข้มเหมือนเดิม เหตุเมืองท่องเที่ยวสำคัญมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น หลังมีการชุมนุมทางการเมืองที่กรุงเทพฯ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมขับเคลื่อนด้านการปฏิบัติการในพื้นที่ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของดำเนินงานการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหาทางด้านต่างๆ ในเมืองท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรภาค 8 ตร.ภูธรจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจทางหลวง เข้าร่วมประชุม
การลงมาประชุมในครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานในพื้นที่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พบว่า ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยต่างๆ สามารถดำเนินการได้ในระดับที่น่าพอใจ คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นลดลง หลังจากในการประชุมครั้งที่ผ่านมาได้มีการเน้นย้ำให้เข้มงวดในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีต่างๆ พบว่าขณะนี้มี 3 เรื่องที่ไม่มีคดีเกิดขึ้น คือ คดีเกี่ยวกับการฆ่านักท่องเที่ยว คดีข่มขืนโทรมหญิง และคดีปล่อยให้มีการโชว์ลามกอนาจาร ที่ไม่ปรากฏให้เห็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถบงชี้ได้ว่า การเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันปราบปรามทำให้คดีเกิดขึ้นลดลง และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตัวเลขการร้องทุกข์ของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ภาค 8 โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวมีการร้องทุกข์ลดลงประมาณ 2%
พล.ต.อ.วุฒิ ยังได้กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ขณะที่ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ที่ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองมีจำนวนลดลง แต่ในส่วนของเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้น เช่น ภูเก็ต พัทยา สมุย และเชียงใหม่ สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ตพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จึงจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยจะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวจะต้องออกปฏิบัติงานตามเกาะต่างๆด้วย เพราะเท่าที่ทราบปัจจุบันยังไม่มีนักท่องเที่ยวออกไปปฏิบัติงานประจำเกาะ จึงขอให้รีบดำเนินการเพราะปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามเกาะในภูเก็ตจำนวนมาก
นอกจากนั้น ในส่วนของตำรวจน้ำก็จะต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุเรือล่มในทะเลเหมือนที่เกิดขึ้นที่พัทยา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องดุแลเข้มต่อไป รวมทั้งเรื่องของนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต เรื่องนี้ก็จะต้องหามาตรการป้องกัน ซึ่งจากตัวเลขพบว่าปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตที่ภูเก็ตสูงกว่า 20 คน เช่นเดียวกับอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากนักท่องเที่ยวเช่ารถไปขับแล้วไปประสบอุบัติเหตุก็จะต้องหามาตรการในการป้องกันต่อไป
พล.ต.อ.วุฒิ ยังได้กล่าวต่อไปถึงเรื่องกำลังพลในส่วนของจังหวัดภูเก็ตที่ขณะนี้มีอยู่ 1,500 คน ว่าไม่เพียงพอในการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะต้องมีการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ถ้าแก้โดยการโยกคนจากที่หนึ่งไปอยู่ที่หนึ่งก็จะทำให้มีปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะรับไปหารือกับทางส่วนกลางเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป เพราะการแก้ไขปัญหาเรื่องกำลังพลต้องแก้กันทั้งระบบ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมขับเคลื่อนด้านการปฏิบัติการในพื้นที่ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของดำเนินงานการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหาทางด้านต่างๆ ในเมืองท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรภาค 8 ตร.ภูธรจังหวัดภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ ตำรวจทางหลวง เข้าร่วมประชุม
การลงมาประชุมในครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานในพื้นที่ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว พบว่า ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยต่างๆ สามารถดำเนินการได้ในระดับที่น่าพอใจ คดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นลดลง หลังจากในการประชุมครั้งที่ผ่านมาได้มีการเน้นย้ำให้เข้มงวดในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีต่างๆ พบว่าขณะนี้มี 3 เรื่องที่ไม่มีคดีเกิดขึ้น คือ คดีเกี่ยวกับการฆ่านักท่องเที่ยว คดีข่มขืนโทรมหญิง และคดีปล่อยให้มีการโชว์ลามกอนาจาร ที่ไม่ปรากฏให้เห็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถบงชี้ได้ว่า การเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันปราบปรามทำให้คดีเกิดขึ้นลดลง และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตัวเลขการร้องทุกข์ของนักท่องเที่ยวในพื้นที่ภาค 8 โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวมีการร้องทุกข์ลดลงประมาณ 2%
พล.ต.อ.วุฒิ ยังได้กล่าวต่อไปถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า ขณะที่ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ที่ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองมีจำนวนลดลง แต่ในส่วนของเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้น เช่น ภูเก็ต พัทยา สมุย และเชียงใหม่ สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ตพบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จึงจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยจะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวจะต้องออกปฏิบัติงานตามเกาะต่างๆด้วย เพราะเท่าที่ทราบปัจจุบันยังไม่มีนักท่องเที่ยวออกไปปฏิบัติงานประจำเกาะ จึงขอให้รีบดำเนินการเพราะปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามเกาะในภูเก็ตจำนวนมาก
นอกจากนั้น ในส่วนของตำรวจน้ำก็จะต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุเรือล่มในทะเลเหมือนที่เกิดขึ้นที่พัทยา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อการท่องเที่ยว ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่จะต้องดุแลเข้มต่อไป รวมทั้งเรื่องของนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต เรื่องนี้ก็จะต้องหามาตรการป้องกัน ซึ่งจากตัวเลขพบว่าปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิตที่ภูเก็ตสูงกว่า 20 คน เช่นเดียวกับอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากนักท่องเที่ยวเช่ารถไปขับแล้วไปประสบอุบัติเหตุก็จะต้องหามาตรการในการป้องกันต่อไป
พล.ต.อ.วุฒิ ยังได้กล่าวต่อไปถึงเรื่องกำลังพลในส่วนของจังหวัดภูเก็ตที่ขณะนี้มีอยู่ 1,500 คน ว่าไม่เพียงพอในการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ซึ่งการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะต้องมีการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ถ้าแก้โดยการโยกคนจากที่หนึ่งไปอยู่ที่หนึ่งก็จะทำให้มีปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะรับไปหารือกับทางส่วนกลางเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป เพราะการแก้ไขปัญหาเรื่องกำลังพลต้องแก้กันทั้งระบบ
