ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ต้นปี 2539 “ตรัง” เป็นจังหวัดที่รู้จักของคนทั่วโลกในฐานะที่ได้สร้างตำนานรักอันยิ่งใหญ่ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม และท้องทะเลสีเขียวมรกตที่สวยงาม อันเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นความประทับใจมิรู้ลืมของคู่รักหนุ่มสาวนักดำน้ำคู่หนึ่ง ที่หลงใหลความงดงามของโลกใต้ท้องทะเล และจากกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในโครงการคืนธรรมชาติสู่แหล่งปะการัง ครั้งที่ 1 เป็นเสมือนสายใยแห่งรักของหนุ่มสาวที่เริ่มก่อตัวขึ้นจนแน่นแฟ้น จนนำไปสู่กิจกรรมที่โด่งดังไปทั่วโลกวันนี้
“วิวาห์ใต้สมุทร” (Trang Underwater Wedding Ceremony) เกิดขึ้นโดยการริเริ่มของ “สุรินทร์ โตทับเที่ยง” ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง ในสมัยนั้น ได้ร่วมกันบันดาลความฝันของคู่รักให้เป็นจริง โดยได้จัดให้มีการจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเลอันแสนโรแมนติกขึ้น ซึ่งในปีต่อๆ มา ยังได้สร้างชื่อเสียงจนได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลก ในหนังสือ “กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด” (Guinness World Records) ว่าเป็น “วิวาห์ใต้สมุทร” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในฐานะที่มีคู่สมรสเข้าร่วมแต่งงานใต้น้ำมากที่สุด และยังเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้เข้าร่วมในพิธีด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่พิธีแต่งงานที่งดงามแบบไทยให้แก่นักท่องเที่ยว คู่รัก นักดำน้ำ และชาวต่างประเทศที่สนใจได้เข้าร่วมงาน เริ่มตั้งแต่พิธีทางศาสนา พิธีแห่ขันหมาก พิธีรดน้ำสังข์ ไปจนถึงพิธีการส่งตัวเข้าหอ ขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้คู่รักที่เคยแต่งงานกันเมื่อปีก่อนๆ มาร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นเหมือนการฮันนีมูน และสร้างประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศที่รักการท่องเที่ยว และการดำน้ำ ได้เดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก และความงดงามของท้องทะเลตรัง
สำหรับ “วิวาห์ใต้สมุทร” ครั้งที่ 18 ประจำปี 2557 เพื่อต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก “วาเลนไทน์” นั้นได้กำหนดไว้ จำนวน 3 วัน ในช่วงระหว่างวันที่ 10-12 ก.พ. นี้ ภายใต้แนวคิด “Let your love glitter the world” หรือในความหมายที่ว่า “ให้ความรักทอแสงสาดส่อง และสร้างสีสันให้โลกเรืองรอง”
โดยในปีนี้จะมีคู่บ่าวสาวซึ่งมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เข้าร่วมงานประมาณ 35 คู่ โดยในวันที่ 10 ก.พ. ช่วงเช้า คู่บ่าวสาวจะเดินทางไปปลูกต้นไม้ และร่วมพิธีรดน้ำสังข์ ที่สวนพฤษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) ส่วนช่วงเย็น จะมีขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่รอบเมืองตรัง จากนั้นในวันที่ 11 ก.พ. ช่วงเช้า คู่บ่าวสาวจะเดินทางไปดำน้ำจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลที่เกาะกระดาน ส่วนช่วงเย็นจะมีงานเลี้ยงฉลองที่หาดวิวาห์ใต้สมุทร และในวันที่ 12 ก.พ. คู่บ่าวสาวจะไปท่องเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวใน อ.กันตัง ก่อนเดินทางกลับ
อย่างไรก็ตาม พิธีแต่งงานตามประเพณีไทยในปีนี้ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการจัดงาน “วิวาห์ใต้สมุทร” ไม่ว่าจะเป็นการให้คู่บ่าวสาวแต่งกายเน้นเอกลักษณ์ความเป็นไทย รวมไปถึงประเพณีกินเหนียว ที่เชื่อกันว่าจะทำให้รักกันเหนียวแน่น ตลอดจนการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน “สลิล โตทับเที่ยง” ประธานหอการค้า จ.ตรัง ระบุว่า ทางคณะผู้จัดงานมีความต้องการที่จะผลักดันให้ จ.ตรัง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งความสุขได้เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวของคู่รักที่ต้องการมาพักผ่อน เนื่องจากมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวที่สูงมาก มีทั้งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
อีกทั้งยังต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม ของประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามา จ.ตรัง ผ่านการนำเสนอเรื่องราวของประเพณีแต่งงานแบบท้องถิ่นภาคใต้ ด้วยการจัดงาน “วิวาห์ใต้สมุทร” ที่ยืนหยัดยาวนานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 18 แล้ว
เรื่อง/ภาพ เมธี เมืองแก้ว
