ตรัง - สลดพบซากพะยูน เพศเมีย อายุกว่า 10 ปี หนักกว่า 100 กก. พบโคนหางมีเชือกไนลอนผูกติดอยู่ คาดว่าเป็นเชือกไซหมึกที่ถ่วงกระสอบทราย ตายเป็นตัวแรกในรอบปี 2557 ในทะเลตรัง
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมพร บุญนวน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/5 ม.4 ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสมาชิกประมงพื้นบ้าน ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ว่า พบพะยูนลอยตายบริเวณปากคลองตะเบ-หาดหยงหลิง บริเวณหมู่เกาะลิบง ห่างออกจากฝั่งประมาณ 300 เมตร หลังจากนั้น จึงช่วยกันลากซากพะยูนดังกล่าวมาที่บริเวณท่าเรือท่าขยง ม.4 บ้านน้ำราบ ต.บางสัก แล้วพร้อมด้วย นายประจวบ โมฆรัตน์ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ตรัง และเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ
โดยพบชาวบ้านกำลังยืนมุงดูซากพะยูนด้วยความเศร้าสลดใจ ซึ่งเป็นพะยูน เพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี ซึ่งคาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5 วัน น้ำหนักประมาณ 100 กก. ลำตัวยาว 1.97 เมตร วัดรอบตัว 1.46 เมตร เนื่องจากซากพะยูนดังกล่าวอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย และไส้แตกทะลักออกมา จึงส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนที่โคนหางมีเชือกไนลอนผูกติดอยู่ คาดว่าเป็นเชือกไซหมึกที่ถ่วงกระสอบทราย ทั้งนี้ เมื่อพะยูนว่ายน้ำมาหางไปติดกับเชือกดังกล่าว จึงไม่สามารถขึ้นมาหายใจได้ และเสียชีวิตในที่สุด
จากการสอบถาม นายสมพร ชาวประมงพื้นบ้านผู้พบซากพะยูนคนแรกเล่าว่า ได้มีชาวบ้านนำเรือออกไปหาปลา จนกระทั่งไปถึงบริเวณดังกล่าว ก็พบซากพะยูนลอยขึ้นอืดอยู่กลางทะเล จึงได้ช่วยกันนำมาขึ้นฝั่ง พร้อมกับประสานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตาย สำหรับพะยูน ที่ตายลงในครั้งนี้นับเป็นตัวแรกของปี 2557 อย่างไรก็ตาม ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ตรัง ได้นำซากส่งไปยังที่สถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อจะหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมพร บุญนวน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/5 ม.4 ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสมาชิกประมงพื้นบ้าน ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ว่า พบพะยูนลอยตายบริเวณปากคลองตะเบ-หาดหยงหลิง บริเวณหมู่เกาะลิบง ห่างออกจากฝั่งประมาณ 300 เมตร หลังจากนั้น จึงช่วยกันลากซากพะยูนดังกล่าวมาที่บริเวณท่าเรือท่าขยง ม.4 บ้านน้ำราบ ต.บางสัก แล้วพร้อมด้วย นายประจวบ โมฆรัตน์ ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ตรัง และเจ้าหน้าที่รุดไปตรวจสอบ
โดยพบชาวบ้านกำลังยืนมุงดูซากพะยูนด้วยความเศร้าสลดใจ ซึ่งเป็นพะยูน เพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี ซึ่งคาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5 วัน น้ำหนักประมาณ 100 กก. ลำตัวยาว 1.97 เมตร วัดรอบตัว 1.46 เมตร เนื่องจากซากพะยูนดังกล่าวอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย และไส้แตกทะลักออกมา จึงส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนที่โคนหางมีเชือกไนลอนผูกติดอยู่ คาดว่าเป็นเชือกไซหมึกที่ถ่วงกระสอบทราย ทั้งนี้ เมื่อพะยูนว่ายน้ำมาหางไปติดกับเชือกดังกล่าว จึงไม่สามารถขึ้นมาหายใจได้ และเสียชีวิตในที่สุด
จากการสอบถาม นายสมพร ชาวประมงพื้นบ้านผู้พบซากพะยูนคนแรกเล่าว่า ได้มีชาวบ้านนำเรือออกไปหาปลา จนกระทั่งไปถึงบริเวณดังกล่าว ก็พบซากพะยูนลอยขึ้นอืดอยู่กลางทะเล จึงได้ช่วยกันนำมาขึ้นฝั่ง พร้อมกับประสานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการตาย สำหรับพะยูน ที่ตายลงในครั้งนี้นับเป็นตัวแรกของปี 2557 อย่างไรก็ตาม ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ตรัง ได้นำซากส่งไปยังที่สถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ต เพื่อจะหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง