ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โจ๋ซ่าหนีคดีฆ่าคนตายจากจังหวัดสตูลมากบดานที่ภูเก็ต ทำตัวเป็นพ่อค้าขายไก่ทอด แต่ไม่พ้นมือตำรวจกะทู้ตามรวบได้ขณะขับรถสามล้อขายไก่ทอดพื้นที่
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ นำโดย พ.ต.ท.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู จ.สตูล นำโดย พ.ต.ท.จักรพันธ์ คงแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.ละงู จ.สตูล ร.ต.อ.ณรงค์ กลับใจได้ รอง สว.สส.สภ.ละงู และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ละงู ร่วมกันจับกุมนายฮาซาน สามารถ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 ม.1 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ลงวันที่ 22 ต.ค.56 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมกันพกอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ
สำหรับการจับกุมในครั้งสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.56 เกิดเหตุฆ่ากันตายที่ริมถนน ม.6 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายดลฮาหนี เกษม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.4 ต.แหลมสน อ.ละงู ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินอยู่บริเวณริมถนนที่เกิดเหตุ ได้มีวัยรุ่น จำนวน 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ตามประกบพร้อมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่บริเวณแผ่นหลังผู้ตายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุคนร้ายทั้ง 2 ได้ขับรถหลบหนี แต่ไปเกิดอุบัติเหตุชนวัว ทำให้อาวุธปืนตกในที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ 1 คน จึงนำตัวมาสอบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 คน คือ นายฮาซาน สามารถ ขณะนั้นอายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจึงขอศาลออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมต่อไป
จนกระทั่งวันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า พบนายฮาซาน ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาล จ.สตูล หลบหนีมาอยู่ที่ภูเก็ต โดยขับรถสามล้อขายไก่ทอด อยู่ในพื้นที่ป่าตอง ทางชุดสืบสวน สภ.กะทู้ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู และออกสืบสวนตืดตามจับกุม จนกระทั่งเจอชายคนหนึ่งจอดรถเพื่อขายไก่ทอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่บริเวณถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำในเบื้องต้นก่อนที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธ์ ผกก.สภ.กะทู้ นำโดย พ.ต.ท.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผกก.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู จ.สตูล นำโดย พ.ต.ท.จักรพันธ์ คงแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.ละงู จ.สตูล ร.ต.อ.ณรงค์ กลับใจได้ รอง สว.สส.สภ.ละงู และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะทู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ละงู ร่วมกันจับกุมนายฮาซาน สามารถ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 ม.1 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ลงวันที่ 22 ต.ค.56 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมกันพกอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ
สำหรับการจับกุมในครั้งสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค.56 เกิดเหตุฆ่ากันตายที่ริมถนน ม.6 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายดลฮาหนี เกษม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 ม.4 ต.แหลมสน อ.ละงู ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินอยู่บริเวณริมถนนที่เกิดเหตุ ได้มีวัยรุ่น จำนวน 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ตามประกบพร้อมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่บริเวณแผ่นหลังผู้ตายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุคนร้ายทั้ง 2 ได้ขับรถหลบหนี แต่ไปเกิดอุบัติเหตุชนวัว ทำให้อาวุธปืนตกในที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ 1 คน จึงนำตัวมาสอบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 คน คือ นายฮาซาน สามารถ ขณะนั้นอายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจึงขอศาลออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมต่อไป
จนกระทั่งวันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า พบนายฮาซาน ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาล จ.สตูล หลบหนีมาอยู่ที่ภูเก็ต โดยขับรถสามล้อขายไก่ทอด อยู่ในพื้นที่ป่าตอง ทางชุดสืบสวน สภ.กะทู้ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู และออกสืบสวนตืดตามจับกุม จนกระทั่งเจอชายคนหนึ่งจอดรถเพื่อขายไก่ทอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่บริเวณถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำในเบื้องต้นก่อนที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละงู เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
