ตรัง - พบแก๊งคนร้ายย่องงัดกุฏิ 2 เจ้าอาวาสชื่อดังของเมืองตรัง ก่อนขโมยเงินสด และมือถือไปเกือบ 3 แสนบาท เตือนวัดต่างๆ ให้เพิ่มความระมัดระวัง หลังเจอเหตุร้ายเช่นนี้มาหลายแห่งแล้ว
วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก พระครูสุธรรมโศภณ หรือพระอาจารย์พล เตชพโล เจ้าอาวาสวัดเขาห้วยแห้ง และเจ้าคณะตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิจำนวนกว่า 1 แสนบาท เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในกุฏิวัดเขาห้วยแห้ง หมู่ที่ 6 ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด โดย พระครูธรรมโศภณ ได้ชี้ให้ผู้สื่อข่าวดูร่องรอยที่คนร้ายปีนขึ้นไปทางหน้าต่าง ซึ่งเป็นบานกระจกเพื่อทำการลักทรัพย์ ทำให้เงินสดที่เก็บไว้ภายในกุฏิหายไป จำนวน 150,000 บาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถือซัมซุงกาแล็คซี่ โน้ต 2 จำนวน 1 เครื่อง ราคา 15,900 บาท
พระครูสุธรรมโศภณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองตรัง ผู้สร้างตะกรุดรุ่นมหาโชค มหาลาภ อันลือลั่น เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังออกจากกุฏิไปฉันเพลภายในหอฉัน โดยไม่ได้นำทรัพย์สินจำนวนดังกล่าวไป และเก็บเอาไว้ภายในกุฏิ โดยเฉพาะเงินสดที่หายไปนั้นได้มาจากชาวบ้านที่นำมาจองวัตถุมงคล และเป็นค่าตลับใส่วัตถุมงคล อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าแปลก ทั้งๆ ที่ภายในกุฏิมีวัตถุมงคลอยู่จำนวนมาก เช่น ตะกรุด และเหรียญ แต่คนร้ายกลับมิได้แตะต้อง นอกจากนี้ ยังพบย่ามที่บรรจุเงินสดไว้อีกกว่า 5 พันบาท ได้หายไปด้วยแต่คนร้ายกลับไม่ได้เอาเงินสดไป พร้อมขอฝากให้ทุกๆ วัดในจังหวัดตรัง ระมัดระวังภัยร้ายดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับแจ้งจาก ร.ต.ต.ชวน พลเดช นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง ว่า มีคนร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิพระวัดราษฎร์รื่นรมย์ หมู่ที่ 9 บ้านบ่อสีเสียด ตำบลนาท่ามเหนือ อำเภอเมืองตรัง เมื่อไปตรวจสอบได้พบกับ พระจรัญ นฺนทโก เจ้าอาวาสวัด ซึ่งเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังออกจากกุฏิเพื่อไปฉันเพลภายในหอฉัน ได้มีคนร้ายงัดหลังคาห้องน้ำเข้าไปแล้วรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย พร้อมทั้งยังงัดโต๊ะทำงานซึ่งภายในมีเงินสด จำนวน 108,300 บาท ที่เพิ่งจะเบิกมาจากธนาคารเพื่อเตรียมไว้จ่ายค่าก่อสร้างถนนภายในวัด และอีกส่วนหนึ่งยังเป็นเงินบริจาคของชาวบ้านเพื่อนำไปก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่
นายกเทศมนตรีตำบลคลองเต็ง กล่าวว่า ในช่วงขณะเกิดเหตุมีผู้คนเข้ามาทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนากันอย่างพลุกพล่าน และส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ แต่ตนได้สังเกตเห็นวัยรุ่น จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาวนเวียนอยู่ที่บริเวณหน้ากุฏิ ซึ่งเชื่อว่าน่าเป็นคนร้ายรายนี้เพราะมีท่าทางพิรุธ และไม่ใช่คนในพื้นที่ นอกจากนั้น ทราบว่าขณะนี้ยังมีวัดอีกหลายแห่งของจังหวัดตรังกำลังประสบความเดือดร้อน เนื่องจากได้ถูกคนร้ายงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในกุฏิจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
