ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคเพื่อไทย มั่นใจการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่มั่นใจคะแนนที่จะเทมาให้ว่าจะได้ 20% ตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เหตุไม่ได้ออกหาเสียง และคนไม่กล้าที่จะออกมาใช้สิทธิ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (24 ม.ค.) นายจิรายุส ทรงยศ ผู้สมัครผู้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภูเก็ตในสถานการณ์การเมืองที่รุนแรงอยู่ในขณะนี้ ว่า ในภาวะที่การเมืองไม่ปกติจะต้องมีคนกล้าที่จะออกมารักษาประชาธิปไตยไว้ ถ้าเกิดไม่มีคนกล้าออกมารักษาประชาธิปไตยไว้ ต่อไปก็จะไม่มีกฎหมายมาบังคับใช้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น อย่างเช่นตอนนี้ที่ความคิดเห็นของคนแตกออกเป็น 2 ฝ่าย และใช้ความรุนแรงต่อกัน ตนจะเดินตามระบอบประชาธิปไตย และพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น และมองว่าหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จในวันที่ 2 ก.พ.นี้ คิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเราจะต้องรักษาประชาธิปไตยไว้ให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตเหมือนกัน การค้าขายลดลง เป็นต้น
“เราต้องกล้าเดินไปในทางที่ถูกต้อง แต่จะต้องพยายามไม่ให้เกิดความรุนแรง และความแตกแยกขึ้นในจังหวัดภูเก็ต และโดยความคิดของตนจะรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ แม้จะหวั่นเกรงว่าในวันเลือกตั้งอาจจะมีปัญหาจะเกิดขึ้น แต่อยากจะให้เกิดความสงบเรียบร้อยในภูเก็ต และเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเหมาะสมกับประเทศไทยมากกว่า” นายจิรายุส กล่าวและว่า
การตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยนั้น โดยส่วนตัวชื่นชอบการทำงานของพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว พรรคเพื่อไทย ทำงานชัดเจน และทำตามนโยบายที่ได้นำเสนอต่อประชาชน กล้าที่จะตัดสินใจทำโครงการใหญ่ๆ ที่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และประเทศชาติ และคิดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ดีที่สุดในประเทศไทยขณะนี้
สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งนั้น นายจิรายุส กล่าวว่า ตนจะไม่ลงพื้นที่หาเสียงด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้เกิดข้อโต้แย้ง และความรุนแรงในพื้นที่ภูเก็ต แต่จะใช้ทีมงานนำแผ่นพับแนะนำตัวไปหาเสียงต่อประชาชนตามบ้านเรือนในพื้นที่เขต 2 และติดตามป้ายหาเสียงตามจุดต่างๆ และคิดว่าการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่มั่นใจผลคะแนนว่าจะเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ แต่จะทำให้ดีที่สุด เพราะไม่สามารถหาเสียงได้อย่างเต็มที่ เพื่อลดข้อโต้แย้ง และความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่
ส่วนคะแนนจะได้เท่าใดนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีข้อโต้แย้ง และความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ก็พอใจแล้ว ซึ่งประมาณการว่าคะแนนที่เลือกตนน่าจะอยู่ที่ 15,000-20,000 เสียง แต่จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 2 มีถึง 145,000 คน ตามกฎหมายเลือกตั้งแล้ว จะต้องมีคนเลือกตนถึง 29,500 เสียง ถึงจะถือว่าได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ภูเก็ต ซึ่งมั่นใจในคะแนนเสียงว่ามีไม่ต่ำกว่า 20,000 เสียง เหลืออีก 10,000 เสียง ไม่แน่ใจว่าคนจะกล้าออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่