ยะลา - ยะลาเดือด! คนร้ายลวงเจ้าหน้าที่ตรวจเหตุระเบิด ขากลับดักกดระเบิดรถยนต์หุ้มเกราะ ตร.สภ.ธารโต ดับ 2 เจ็บ 3 ตร.พุ่งเป้าฝีมือ “อับดุลเลาะ ปูลา” แกนนำในพื้นที่
เมื่อเวลา 11.05 น. วันนี้ (24 ม.ค.) ศูนย์วิทยุ สภ.ธารโต จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณทางโค้ง เส้นทางบ้านแหร-บ้านบัวทอง หมู่ 2 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ จึงได้แจ้ง พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.จรัส ชิณนะพงศ์ ผกก.สภ.ธารโต พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 เดินทางไปตรวจสอบทันที
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยคอกช้าง ได้ช่วยกันลำเลียงร่างผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลธารโต จำนวน 4 นาย ทราบชื่อคือ จ.ส.ต.สมนึก ด้วงนิ่ม ส.ต.ต.พันธ์เทพ เอมสมบุญ ส.ต.ต.ปพน เดชอโนทัย และ ส.ต.อ.สิทธิชัย เครือบุตร ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ ร.ต.ต.นิยม สุวรรณมณี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บล่าสุดถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลยะลา ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.ส.ต.สมนึก ด้วงนิ่ม ได้เสียชีวิตแล้ว
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถยนต์อีซูซุ ดีแมคซ์ หุ้มเกราะ สีน้ำเงิน ตราโล่ 93085 อยู่ในสภาพหงายท้องพังยับเยิน ห่างจากตัวรถเล็กน้อย พบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร โดยเจ้าหน้าที่พบเศษถังแก๊สสีเขียว เศษสายไฟ และเศษแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จึงได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเชื่อเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 30 กก. ที่คนร้ายนำมาซุกใต้ผิวถนน จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธารโต เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 3301 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทาง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.47 น. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จสิ้นภารกิจตรวจสอบที่เกิดเหตุ กำลังเดินทางกลับด้วยรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 1 กม. คนร้ายซึ่งนำระเบิดมาซุกเอาไว้ใต้ผิวถนนจึงได้จุดชนวนระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
มีรายงานจากชุดสืบสวนสอบสวนระบุว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปยัง นายอับดุลเลาะ ปูลา แกนนำก่อเหตุรุนแรงที่ปฏิบัติการในพื้นที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เคยควบคุมตัวนายอับดุลเลาะ ปูลา เอาไว้ได้ แต่ได้มีการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี และนายอับดุลเลาะ ได้หนีประกันในชั้นศาล
