ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวเฟซบุ๊กร่วมไว้อาลัย “ประคอง ชูจันทร์” เหยื่อระเบิดที่ถนนบรรทัดทองหลังร่วมเดินขบวนรณรงค์กับกำนันสุเทพ เผยนำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเก็ตโฮ่ จ.ภูเก็ต วันที่ 21 ม.ค.นี้
จากกรณีการเสียชีวิตของ นายประคอง ชูจันทร์ อายุ 46 ปี เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ม.ค.) หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง ซึ่งสร้างความเสียใจให้แก่กลุ่มมวลชนที่ร่วมต่อสู้ขับไล่รัฐบาลรักษาการ และญาติ รวมทั้งเพื่อนของนายประคอง เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กขณะนี้ได้การเข้ามาแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของนายประคอง กันเป็นจำนวนมาก
เช่น นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีต ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ที่ได้เขียนในเฟซบุ๊ก ว่า “สุดท้าย..คุณประคอง ชูจันทร์ ก็จากพวกเราไป ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและความอาลัย..ศรัทธาต่อหัวใจอันหาญกล้าของท่าน คุณประคอง เป็นคนเชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช แต่มาทำงานอยู่ภูเก็ตนานแล้วที่ป่าตอง มีคุณเยาว์ เป็นภรรยา และลูก 3 คน คนเล็กสุด อายุ 7 ขวบ ติดพ่อหนักหนา ยิ่งลักษณ์..เธอ พรากลูก.พรากพ่อ เหมือนเคยเกิดขึ้นกับน้องวสุ กับ แม่ อาจารย์ทิพย์อาภา มาแล้ว เธอเลือดเย็น และโหดร้ายเหลือเกิน
นอกจากนั้น ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ร่วมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายประคอง ที่ต้องมาเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ สำหรับนายประคอง นั้นเดิมเป็นคนบ้านป่าหวาย หมู่ที่ 7 ตำบลเชียรเขา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้า และขับรถตู้อยู่คิวหน้าโรงแรมรอยัลพาราไดส์ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีบุตร จำนวน 3 คน ผู้หญิง 2 คน ชาย 1 คน โดยคนเล็กอายุประมาณ 7 ปี
ซึ่งที่ผ่านมา นายประคอง ได้เดินทางไปรวมชุมนุมกับกลุ่ม กกปปส.อย่างต่อเนื่อง สำหรับครั้งนี้เดินทางขึ้นไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการโพสต์ข้อความขึ้นในเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความว่า “ รอบนี้จัดเต็มไม่ชนะไม่กลับ” และอื่นๆ อีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้ญาติ และภรรยาของนายประคอง ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ แล้ว เพื่อรับศพของนายประคอง โดยจะมีการตั้งศพสวดพระอภิธรรม ที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ที่ศาลา 15 (เวชชาชีวะ) วันที่ 19 ม.ค. เวลา 16.00 น. จัดให้มีพิธีรดน้ำศพ เวลา 19.00 น. จัดให้มีพิธี สวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 20 ม.ค. เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 21 เคลื่อนศพกลับมายังจังหวัดภูเก็ต และกำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเก็ตโฮ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
จากกรณีการเสียชีวิตของ นายประคอง ชูจันทร์ อายุ 46 ปี เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 ม.ค.) หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง ซึ่งสร้างความเสียใจให้แก่กลุ่มมวลชนที่ร่วมต่อสู้ขับไล่รัฐบาลรักษาการ และญาติ รวมทั้งเพื่อนของนายประคอง เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กขณะนี้ได้การเข้ามาแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของนายประคอง กันเป็นจำนวนมาก
เช่น นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีต ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ที่ได้เขียนในเฟซบุ๊ก ว่า “สุดท้าย..คุณประคอง ชูจันทร์ ก็จากพวกเราไป ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและความอาลัย..ศรัทธาต่อหัวใจอันหาญกล้าของท่าน คุณประคอง เป็นคนเชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช แต่มาทำงานอยู่ภูเก็ตนานแล้วที่ป่าตอง มีคุณเยาว์ เป็นภรรยา และลูก 3 คน คนเล็กสุด อายุ 7 ขวบ ติดพ่อหนักหนา ยิ่งลักษณ์..เธอ พรากลูก.พรากพ่อ เหมือนเคยเกิดขึ้นกับน้องวสุ กับ แม่ อาจารย์ทิพย์อาภา มาแล้ว เธอเลือดเย็น และโหดร้ายเหลือเกิน
นอกจากนั้น ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ร่วมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายประคอง ที่ต้องมาเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ สำหรับนายประคอง นั้นเดิมเป็นคนบ้านป่าหวาย หมู่ที่ 7 ตำบลเชียรเขา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้า และขับรถตู้อยู่คิวหน้าโรงแรมรอยัลพาราไดส์ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีบุตร จำนวน 3 คน ผู้หญิง 2 คน ชาย 1 คน โดยคนเล็กอายุประมาณ 7 ปี
ซึ่งที่ผ่านมา นายประคอง ได้เดินทางไปรวมชุมนุมกับกลุ่ม กกปปส.อย่างต่อเนื่อง สำหรับครั้งนี้เดินทางขึ้นไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการโพสต์ข้อความขึ้นในเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้โพสต์ข้อความว่า “ รอบนี้จัดเต็มไม่ชนะไม่กลับ” และอื่นๆ อีกจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลในเบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้ญาติ และภรรยาของนายประคอง ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ แล้ว เพื่อรับศพของนายประคอง โดยจะมีการตั้งศพสวดพระอภิธรรม ที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ที่ศาลา 15 (เวชชาชีวะ) วันที่ 19 ม.ค. เวลา 16.00 น. จัดให้มีพิธีรดน้ำศพ เวลา 19.00 น. จัดให้มีพิธี สวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 20 ม.ค. เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรมศพ วันที่ 21 เคลื่อนศพกลับมายังจังหวัดภูเก็ต และกำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดเก็ตโฮ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต