ชุมพร-เจ้าหน้าที่ขนส่ง จ.ชุมพร กวดขันตรวจจับความเร็ว เน้นรถขนส่งโดยสารประจำทาง และรถตู้โดยสาร ป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ พบยังใช้ความเร็วเกินอัตรากำหนดจำนวนมาก

วานนี้ (30 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดชุมพร นำเครื่องมือตรวจจับความเร็วทำการตรวจจับความเร็วบนถนนสายเอเชีย 41 กม.25-26 ต.วิสัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นถนนทางตรง ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนสายหลักของภาคใต้ที่มีรถทุกชนิดสัญจรไปมาจำนวนมาก เพื่อตรวจจับรถขนส่งผู้โดยสารประจำทาง และรถตู้โดยสารที่ใช้ความเร็วเกินอัตรากำหนด ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรณรงค์กวดขัน และป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่

จากการใช้เครื่องตรวจจับความเร็วรถโดยสารทั้งรถทัวร์ และรถตู้โดยสารพบว่ายังใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดจำนวนมาก โดยเฉลี่ยจะใช้ความเร็วอยู่ประมาณ 110-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ทั้งรถทัวร์ รถโดยสารประจำทาง และรถตู้ยังใช้ช่องทางด้านขวาตลอดในการเดินรถ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดชุมพร ได้บันทึกภาพหมายเลขทะเบียนรถไว้เป็นเป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งไปยังบริษัทต้นสังกัดเพื่อดำเนินคดีต่อกฎหมายจราจร พร้อมส่งพนักงานขับรถคันดังกล่าวเข้าอบรมเข้มซึ่งเป็นการกวดขันในความรับผิดชอบในหน้าที่ที่มีต่อผู้โดยสารต่อไป
วานนี้ (30 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดชุมพร นำเครื่องมือตรวจจับความเร็วทำการตรวจจับความเร็วบนถนนสายเอเชีย 41 กม.25-26 ต.วิสัยเหนือ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นถนนทางตรง ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร โดยเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนสายหลักของภาคใต้ที่มีรถทุกชนิดสัญจรไปมาจำนวนมาก เพื่อตรวจจับรถขนส่งผู้โดยสารประจำทาง และรถตู้โดยสารที่ใช้ความเร็วเกินอัตรากำหนด ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรณรงค์กวดขัน และป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่
จากการใช้เครื่องตรวจจับความเร็วรถโดยสารทั้งรถทัวร์ และรถตู้โดยสารพบว่ายังใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดจำนวนมาก โดยเฉลี่ยจะใช้ความเร็วอยู่ประมาณ 110-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ทั้งรถทัวร์ รถโดยสารประจำทาง และรถตู้ยังใช้ช่องทางด้านขวาตลอดในการเดินรถ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดชุมพร ได้บันทึกภาพหมายเลขทะเบียนรถไว้เป็นเป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งไปยังบริษัทต้นสังกัดเพื่อดำเนินคดีต่อกฎหมายจราจร พร้อมส่งพนักงานขับรถคันดังกล่าวเข้าอบรมเข้มซึ่งเป็นการกวดขันในความรับผิดชอบในหน้าที่ที่มีต่อผู้โดยสารต่อไป